คำวินิจฉัยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ 1273/2564 วันอังคารที่ 21 ธันวาคม 2564 เรื่องการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ใหม่ แทนนายก อบจ.กาฬสินธุ์คนเดิม ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 108 วรรคสอง และให้ดำเนินคดีอาญาแก่หัวคะแนนคนดัง ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1) ประกอบมาตรา 126
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา นายสมพงศ์ เผือกประดิษฐ ผู้พิพากษา ได้ลงนามในประกาศศาลอุทธรณ์ภาค 4 เรื่องแจ้งวันนัดตรวจพยานหลักฐาน คดีเลือกตั้งหมายเลขดำที่ ลต. 1/2565 ระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง นายชานุวัฒน์ วรามิตร ผู้คัดค้าน เรื่องขอให้ศาลสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ศาลรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว ศาลนัดตรวจพยานหลักฐาน วันที่ 22 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น.
“ชานุวัฒน์ วรามิตร” หยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังศาลอุทธรณ์ รับคำฟ้อง กกต. ขอสั่งเพิกถอนสิทธิสมัคร-เลือกตั้งใหม่-ชดใช้ค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง เหตุทุจริตได้รับเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริต
วันที่ 12 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 65 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้ประกาศ แจ้งวันนัดตรวจพยานหลักฐานคดีเลือกตั้งหมายเลขดำที่ลต. อบจ.1/2565 ระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้องกับนายชานุวัฒน์ วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ เรื่องขอให้ศาลสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยศาลรับคำร้องไว้พิจารณาแล้วและนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 22 มี.ค. 65 เวลา 10.00 น. โดยในส่วนของนายชานุวัฒน์ เป็นกรณีที่ กกต. เห็นว่าการที่นายอนุชา สิงหะดี ผู้ช่วยหาเสียงของนายชานุวัฒน์ โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถเก็บป้ายหาเสียงของนายชานุวัฒน์ไปใช้ประโยชน์ได้ฟรี ซึ่งเข้าข่ายเป็นการ จัดทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับนายชานุวัฒน์ เป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรมตามมาตรา 108 วรรคสอง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562
อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 226 กำหนดให้กรณีศาลอุทธรณ์มีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว ให้สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ที่ถูกกล่าวหาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลอุทธรณ์ จะมีคำพิพากษาว่าผู้นั้นมิได้กระทำความผิด แต่ถ้าศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิด ให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นผู้นั้นสิ้นสุดลงนับแต่วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่