ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์สวมใส่ชุดพื้นเมืองผ้าไหมแพรวา ชุดภูไทกาฬสินธุ์ ต้อนรับนายกรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่มาหารือการพัฒนาพื้นที่แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่อำเภอยางตลาด โดยมีนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์, นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์, นายพลากร พิมพะนิตย์, นายประเสริฐ บุญเรือง, นายวิรัช พิมพะนิตย์, นายทินพล ศรีธเรศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์สังกัดพรรคเพื่อไทย หัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนร่วมต้อนรับจำนวนมาก
วันนี้ (2 มี.ค. 2567 เวลา 13.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังลงพื้นที่บึงอร่าม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อหารือการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแลนด์มาร์ค (Landmark) และจุดแวะพักของจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งทันทีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงได้ทักทายพี่น้องชาวกาฬสินธุ์ที่สวมใส่ชุดพื้นเมืองภูไทผ้าไหมแพรวามาต้อนรับ ต่อจากนั้นได้รับฟังการบรรยายสรุปแผนการนำเสนอโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พื้นที่บึงอร่าม จากนางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายก อบจ.กาฬสินธุ์ จากนั้นได้เดินเยี่ยมชมบูธแผนโครงการฯ ที่ทางจังหวัดได้เตรียมนำเสนอและบูธสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนและของดีเมืองกาฬสินธุ์ที่ชาวบ้านมาจัดแสดง เช่น พุทรานมสด มะม่วงมหาชนก ผ้าไหมแพรวา กุ้งกาฬสินธุ์ ก่อนกลับนายกรัฐมนตรีได้ถ่ายภาพร่วมกับชาวบ้านที่สวมใส่ชุดภูไทด้วย
สำหรับ พื้นที่บึงอร่ามก่อนหน้านี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ขอใช้พื้นที่จากกรมธนารักษ์จัดทำเป็นสวนสาธารณะ เนื่องจากเป็นพื้นที่กว้างแต่ขาดงบประมาณในการพัฒนา และอีกทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์เห็นว่พื้นที่นี้น่าจะเหมาะสมที่จะเป็นแลนด์มาร์ค เนื่องจากตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 204 ขอนแก่น-กาฬสินธุ์ เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ทางการค้าระหว่างภูมิภาคของกลุ่มประเทศอินโดจีน ถือได้ว่าวางอยู่ในตำแหน่งที่เปรียบเสมือนประตูเชื่อมระหว่างภูมิภาค มีพื้นที่ทั้งสิ้น 2,263 ไร่ เป็นพื้นที่น้ำ 1,200 ไร่ ที่เหลือเป็นพื้นที่ดิน อยู่ในความควบคุมของกรมธนารักษ์ ขณะที่บางส่วนอยู่ในความควบคุมของกระทรวงมหาดไทย จึงมีการจัดทำโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่บึงอร่ามก่อนหน้านี้ อบจ.กาฬสินธุ์ ได้ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการแล้ว โดยผ่านการเห็นชอบของประชาชน แต่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงต้องเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณรวมทั้งสิ้น 255 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าว แบ่งเป็น 2 เฟส เฟสแรกวงเงิน 100 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างจุดประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยใช้รูปปั้นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ ให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวแวะพัก นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างศูนย์แสดงสินค้า เป็นจุดรวมผลิตภัณฑ์ต่างๆของจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเริ่มแรกต้องมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ก่อนคาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี ส่วนเฟสที่ 2 สร้างศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ เพราะจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่มีสถานที่ในการประชุมขนาดใหญ่เลย จึงได้ประสานกับกรมธนารักษ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขอใช้พื้นที่เพื่อเป็นสวนสาธารณะ แต่จะขอปรับเปลี่ยนเป็นขอพื้นที่เพื่อหารายได้ โดยจะให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในการบริหารจัดการพื้นที่แห่งนี้ร่วมกัน
โดยในโอกาสที่นายกฯเศรษฐา มาลงพื้นที่กาฬสินธุ์ในวันนี้ ดร.วัชรพงศ์ ชาวสามทอง นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ยื่นหนังสือโครงการ “รักข้ามสะพาน” เพื่อให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ได้มีกิจกรรม “รักข้ามสะพาน” จดทะเบียนสมรสให้คู่บ่าวสาวที่ใต้สะพานเทพสุดา เพื่อขับเคลื่อนส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์สู่สากลกับมือนายกรัฐมนตรีด้วย
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com