วันที่ 15 มีนาคม 2561 กองคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ กรมทรัพยากรธรณี ได้จัดฝึกอบรม “โครงการให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 แก่ชุมชน” ณ พิพิธภัณฑ์สิรินธร จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยการอบรมครั้งนี้ มีนายทินกร ทาทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 เป็นผู้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมอบรม นายนิมิต ศรคลัง ผู้อำนวยการกองคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ว่าที่ร้อยตรี ธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอสหัสขันธ์ เป็นประธานกล่าวเปิด โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้ คือครู ส่วนราชการ ชุมชน ท้องถิ่น ในจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าร่วมอบรมจำนวน 150 คน
ซึ่งในการจัดงานอบรมในครั้งนี้ กองคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ กรมทรัพยากรธรณี ได้มอบความรู้ในเรื่องธรณีวิทยา ซากดึกดำบรรพ์ และพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 ในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการการขุดค้นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ ตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์ ตัวอย่างแร่-หิน รวมทั้งกิจกรรมตัวอย่างหินในประเทศไทย กิจกรรมตอบคำถาม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ตระหนักถึงความสำคัญของซากดึกดำบรรพ์
ซึ่งเป็นมรดกทางธรรมชาติของแผ่นดิน ที่ควรอนุรักษ์ไว้ และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
ด้านว่าที่ร้อยตรี ธีระพล โชคนำชัย นายอำเภอสหัสขันธ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การจัดฝึกอบรมที่พิพิธภัณฑ์สิรินธรในครั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เรียนรู้ขั้นตอนการคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ สามารถนำไปถ่ายทอดให้ชาวบ้านในพื้นที่ให้เข้าใจ ว่าเมื่อชาวบ้านได้ไปพบเจอซากฟอสซิลไดโนเสาร์ ต้องแจ้งเรื่องไปที่หน่วยงานใด โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอสหัสขันธ์ ซึ่งมีการขุดพบซากฟอสซิลหอยโบราณ (สุสานหอย) เป็นจำนวนมาก หากชาวบ้านไม่เข้าใจเรื่อง พบร.คุ้มครองฯ ก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อซากฟอสซิลได้ เมื่อมีการอบรมให้ความรู้แก่ชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่าเมื่อพบเจอซากดึกดำบรรพ์ ต้องแจ้งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบคือกรมทรัพยากรธรณีได้โดยตรง หรือแจ้งไปยังผู้นำท้องถิ่นตามลำดับก็ได้
นายอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวต่อว่า อยากขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์สิรินธร ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีหลุมขุดค้นที่สมบูรณ์ และยังมีสินค้า OTOP ที่ชาวบ้านในพื้นที่นำเข้ามาจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวในทุกวันศุกร์ ถือเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในชุมชนไปอีกทางด้วย
ทีมข่าว 7 ดาวชาวกาฬสินธุ์ /รายงาน
www.kalasinnews.com