เรื่องนี้ เจ๊ป๋อง เจ้าของร้านเนื้อย่างพร้อมพรรณกาฬสินธุ์ อยากฝากเตือนให้เป็นอุทาหรณ์ ไม่คิดไม่ฝันว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องจริงและเจอเข้ากับตัวเอง เมื่อมีคนโทร.มาเสนอจะช่วยต่อบัญชีเข้ากับโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ที่จะถึงนี้ ทำให้ต้องสูญเงินในบัญชีจากหลายธนาคาร รวมจำนวนเงินทั้งสิ้นเกือบ 2 ล้านบาท
วันนี้ (1 ก.พ. 2566) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ เจ๊ป๋อง “คุณอดิภา สุวรรณชมภู” ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “วันนี้ตนเองได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพ ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ โทร.มาสอบถามว่าโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่กำลังจะมาในปี 2566 นี้แล้ว ถามว่าคุณจะใช้ต่อไหม ตนก็เลยตอบไปว่าจะใช้ต่ออยู่ แล้วเขาบอกอีกว่าถ้าจะใช้โครงการนี้ต่อก็ไม่ต้องไปทำเรื่องที่ศาลากลาง สามารถทำเองผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือได้เลย ไม่ต้องเสียเวลา สามารถบอกผมให้ทำให้ได้เลย แล้วเขาก็บอกให้เข้าแอพฯ ของสรรพากร แล้วเขาจะบอกวิธีทำให้ ตนเองก็เลยบอกให้ลูกสะใภ้ช่วยทำให้ โดยบอกให้กดเข้าแอพฯ ตามลิงค์ที่ส่งมาให้ ตนเองก็เลยเกิดความคาใจจึงถามกลับไปอีกว่าจะมาทำอะไรเหรอ โทร.มานี่มาเพื่อเหตุผลอะไร อยากได้อะไร คือเราเสียภาษีเราก็จ่ายทุกปีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ทันการ เพราะได้กดลิงค์ไปแล้ว แล้วก็พบมีข้อความเด้งเข้ามาในมือถือ ว่ามีการโอนเงินออกจากบัญชี ก็เลยรีบแล้วมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยดำเนินคดี แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ให้คำแนะนำให้โทร.ไปยัง Call Center ของแต่ละธนาคาร เพื่อทำการอายัดบัญชีไว้ก่อน”
หลังจากนั้น ก็ได้เดินทางไปยังธนาคารต่าง ๆ ในเขตตัวเมืองกาฬสินธุ์ ที่ตนเองได้เปิดบัญชีไว้ เพื่อติดต่อขออายัดบัญชี และได้ขออนุญาตเข้าพบผู้การฯ กาฬสินธุ์ เพื่อขอคำแนะนำ และขอฝากเรื่องนี้ให้เป็นอุทาหรณ์แก่ทุกคนด้วย เพราะเราไม่รู้เลยจริงๆ ว่าการให้ข้อมูลส่วนตัวของเราไปนั้น มิจฉาชีพจะใช้เป็นข้อมูลในการหลอกโอนเงินไปได้ เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องตกเป็นเหยื่อแบบตน และขอฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยติดตามมิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วด้วย
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com