สมาชิกวุฒิสภาลงพื้นที่ พบปะ เยี่ยมเยียน ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัย และติดตามรับฟังปัญหา ของ ประชาชนชาวกาฬสินธุ์เป็นวันที่ 2
(28ต.ค.65) เวลา 08.30น. พลโท จเรศักดิ์ อานุภาพ สมาชิกวุฒิสภา หัวหน้าคณะเดินทาง นำสมาชิกวุฒิสภา นายเกียว แก้วสุทอ , นายเชิดศักดิ์ สันติวรวุฒิ, นายวีระศักดิ์ ภูครองหิน , นายสุชัย บุตรสาระ, นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล ,นางจินตนา ชัยยวรรณาการ สมาชิกวุฒิสภา และนายวสันต์ ชัยชนะ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ได้ลงพื้นที่บ้านแจ้งจม ตำบลเจ้าท่า อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อพบปะ เยี่ยมเยียน ผู้ประสบอุทกภัย โดยบ้านแจ้งจม เป็น 1 ในพื้นที่ ที่ประสบอุทกภัย นอกเหนือจากอำเภอฆ้องชัย โดยบ้านแจ้งจม เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ติดกับริมน้ำชี เมื่อพนังกั้นน้ำที่อำเภอฆ้องชัยขาด น้ำได้ไหลเข้าท่วม อำเภอฆ้องชัยและอำเภอกมลาไสยต่อมา อำเภอกมลาไสยประสบอุทกภัยใน 3 ตำบล 25 หมู่บ้าน 1,284 ครัวเรือน บ้านแจ้งจม ประสบปัญหา 150 ครัวเรือน โดยคณะ สว. ได้มอบถุงยังชีพ ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม เพื่อการบรรเทาทุกข์เบื้องต้น
ทั้งนี้ประชาชนได้นำเสนอปัญหา โดยมีความต้องการให้มีการสูบน้ำออกโดยเร็วและการเสริมพนังกั้นน้ำให้แข็งแรงมากขึ้น ซึ่งทาง คณะ สว.ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสูบน้ำ โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งสูบน้ำอย่างเต็มกำลัง และได้กำชับไปยังหน่วยงานที่ดูแลเรื่องของการชดเชย ทั้งภาคการเกษตร และด้านอื่นๆ
จากนั้นได้ลงพื้นที่ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่กลุ่มวิสาหกิจปลูกผักอินทรีย์ บ้านสุขเกษม หมู่ที่ 2 ตำบลกุดปลาค้าว โดยมีนายคงคา ชื่นจิต นายอำเภอเขาวง ได้กล่าวรายงานสภาพการณ์ทั่วไปของอำเภอเขาวง ซึ่งดูแลการปกครองใน 6 ตำบล 71 หมู่บ้าน มีประชากร 33,812 คน โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำนา ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง มีรายได้ 59,242 ต่อคนต่อปี ทั้งนี้นางทับทิม เพาะชม ประธานกลุ่มวิสาหกิจปลูกผักอินทรีย์ ได้นำเสนอถึงแนวทางการทำงานของกลุ่ม ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิก ทั้ง 32 คนได้เป็นอย่างดี โดยนอกจากเป็นศูนย์เรียนรู้แล้ว ยังเป็นแหล่งสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยในพื้นที่ 28 ไร่ แบ่งเป็นการทำนาข้าว 15 ไร่ มีสระเก็บน้ำ 7 สระในพื้นที่ 10 ไร่ ปลูกไม้เศรษฐกิจกว่า 70 ชนิดบนขอบสระ ปลูกผัก 10 โรงเรือน พื้นที่ 1 ไร่ ทำการปศุสัตว์ ในพื้นที่ 1 งาน โดยได้บริหารจัดการในการเพาะปลูกควบคู่กับการตลาด ทำให้สามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิกเป็นอย่างดี ทั้งนี้ได้ขอความอนุเคราะห์ ในเรื่องของถนนที่เป็นหลุม เป็นบ่อทำให้การสัญจรลำบากมากโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน และต้องการไฟฟ้าส่องสว่าง รวมไปถึงแหล่งน้ำ ที่อยากได้น้ำบาดาลระบบโซลาเซลล์ ซึ่งทาง คณะ สว. ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้แจ้งว่ามีโครงการไฟฟ้าสำหรับภาคการเกษตรซึ่งจะได้ดำเนินการ ในส่วนของน้ำบาดาลโซลาเซลล์ คณะ สว.ได้รับทราบและจะทำการประสานไปยังกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อเข้ามาช่วยเหลือดูแลต่อไป