ท่าอุเทน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดนครพนม มีแนวชายแดนติดกับประเทศลาว เป็นอำเภอที่มีความสงบร่มเย็น มีประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวลุ่มแม่น้ำโขงที่โดดเด่น ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของชาวไทญ้อของประเทศไทย (วิกิพีเดีย)
ล่าสุด “เสี่ยน้อยบ้านโฮม” นายวัชรพงศ์ ชาวสามทอง นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าของวนเกษตรบ้านโฮม พร้อมทีมงาน และเพื่อนสนิทอย่าง นายธีรวุฒิ ชัยพัฒน์ หรือที่เพื่อนๆ นิยมเรียก “สจ๊วดเอ๋” อดีตพนักงานสายการบินไทย ที่ผันตัวเองมาลุยเป็นเกษตรกรเต็มตัว ก็ได้มาช่วยปลูกป่า ณ อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ในครั้งนี้ด้วย
“เสี่ยน้อย” นายวัชรพงศ์ ชาวสามทอง เจ้าของวนเกษตรบ้านโฮม กล่าวว่า “วันนี้เรามาปลูกป่าที่ จ.นครพนม โดยเนื้อที่ตรงนี้ติดถนนสี่เลนเส้นท่าอุเทน-บ้านแพง ซึ่งจังหวัดนครพนมมีไม้กันเกรา เป็นไม้มงคลประจำจังหวัดนครพนม มีลักษณะเด่นคือเนื้อไม้สวยใช้เป็นไม้เฟอร์นิเจอร์ได้ ส่วนพื้นที่แปลงนี้วันนี้เราได้นำไม้ป่าหลายชนิดมาปลูก ไม่ว่าจะเป็น มะฮอกกานี ประดู่ ไม้สัก กฐินเทพา เป็นต้น โดยใช้ทีมงานปลูกป่าจากวนเกษตรบ้านโฮม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งต้นกล้าไม้เราได้บ่มเพาะมาอย่างดี เป็นต้นกล้าสูงใหญ่อายุ 2-3 ปีแล้ว เมื่อนำมาปลูกก็จะทำให้ต้นไม้โตเร็ว มีความเสี่ยงที่จะต้นตายน้อยมาก ใช้ปุ๋ยรองก้นหลุมสูตรพิเศษที่ปรุงเองจากวนเกษตรบ้านโฮม”
เสี่ยน้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากที่เรามีประสบการณ์ในการปลูกป่ามาแล้ว 10 ปี มีการเปิดอบรม 3ข. ซึ่งป่าที่เราปลูกไว้ตอนนี้ก็สามารถนำมาใช้งานได้แล้ว ซึ่งไม้ที่เรามาปลูกในวันนี้ เป็นไม้ที่มีมูลค่าสูง ปลูกแบบผสมผสาน ทั้งไม้สัก ไม้พะยูง ไม้มะค่า และไม้โตเร็วอย่างเช่นมะฮอกกานี กฐินเทพา จึงอยากเชิญชวนทุกท่านมาทำการปลูกป่า การปลูกต้นไม้ผมคิดว่าเป็นการออมที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดมากกว่าหุ้น เพราะในระยะเวลา 10-20 ปี การปลูกป่าจะให้มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1-2 พันเท่า คิดง่าย ๆ คือเป็นการออมให้ลูกให้หลานของเราวันละ 1 บาทต่อ 1 ต้น แปลงนี้เราปลูก 400 ต้น เมื่อลองคิดเป็นมูลค่าแล้วต่อปีเป็นเงินออมถึง 146,000 บาท (คูณ 365 วัน) จึงอยากเชิญชวนท่านที่มีที่ดินที่ว่างเปล่า นอกจากจะทำให้ท่านเสียภาษีในมูลค่าที่สูงแล้ว อยากให้หันมาลองทำการเกษตร จะทำให้ได้ผลตอบแทน อย่างน้อยก็คิดว่าเป็นเงินออมให้ลูกให้หลาน จึงขอเชิญมาปลูกป่าร่วมกัน เพื่อ “รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม” หากท่านใดสนใจปลูกป่า หรืออยากเรียนรู้วิธีปรุงปุ๋ยสูตรพิเศษ สามารถสอบถามได้ที่เบอร์ 0933738354 หรือ inbox ได้ที่เพจ “วนเกษตรบ้านโฮม” เรายินดีให้บริการทุกท่าน”
ด้านนายธีรวุฒิ ชัยพัฒน์ กล่าวว่า “การปลูกป่าเราต้องดูคนที่ประสบความสำเร็จแล้วเป็นตัวอย่าง จึงทำตามเสี่ยน้อย อย่าไปคิดเอง เพราะเคยคิดเองทำเองโดยการลองปลูกไม้ผลเองแล้วปรากฏว่าตายหมด เพราะไม่มีคนดูแลจริงจัง ปัญหาแหล่งน้ำไม่เพียงพอ และปัญหาลักขโมยด้วย เพราะไม่ได้อยู่ดูแลเองตลอด จึงหันมาปลูกไม้ป่าเหมือนเสี่ยน้อย เพราะมันอยู่กับเราได้ชั่วลูกชั่วหลาน ยิ่งไม้สักถ้าโตแล้วคุณตัดตอให้ต่ำเกือบเสมอดิน ทิ้งไว้ 7-8 เดือน มันสามารถสูงได้ถึง 10 เมตร คือมันโตขึ้นได้ถึง 3 เท่า และยังเป็นโครงการที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยดำรัสเรื่องการส่งเสริมให้ทุกคนปลูกป่า จึงขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันปลูกป่า ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและแหล่งผลิตโอโซนให้บ้านเราไปในตัวด้วย”
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com