สายเขียวได้เฮ! แต่เพื่อนบ้านก็ยังเป็นงง สาธารณสุขเพิ่งประกาศปลดล็อกกัญชาไม่เป็นยาเสพติดประเภท 5 แค่วันเดียวเท่านั้น แต่ต้นกัญชาของเพื่อนบ้านกลับตั้งตระหง่านรับแดดริมรั้วหน้าบ้านต้นสูงปรี๊ดสูงชะลูดได้ถึงขนาดนี้
หลังจากที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขได้มีการปลดล็อกกัญชา ไม่เป็นยาเสพติดประเภท 5 ซึ่งมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการวันนี้ (9 มิ.ย. 65) ทำให้ชาวบ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์และทั่วประเทศ ต่างดีใจกันเป็นอย่างมาก ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ลักลอบปลูกกัญชาไว้หลังบ้าน หรือซุกซ่อนไว้ในบ้าน ต่างก็นำต้นกัญชา ออกมาปลูกไว้แถวรั้วหน้าบ้านอย่างสบายใจ เพื่อให้รับแดด รับลมได้อย่างเต็มที่ เพราะจะทำให้ต้นกัญชาเติบโตเร็ว หลายคนต่างพรวนดิน ใส่ปุ๋ย รดน้ำกันอย่างคึกคัก ทะนุถนอมต้นกัญาเหมือนพืชวิเศษในตำราที่ใช้รักษาโรคได้ทุกชนิด ครอบจักรวาล
โดยชาวบ้านบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ปลูกต้นกัญชาไว้ตามรั้วบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้ทำเพื่อหวังการค้าแต่อย่างใด ส่วนมากจะปลูกไว้ปรุงอาหาร เช่น ใส่ต้มไก่ ต้มปลา จะเพิ่มรสชาติของความอร่อยได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องพึ่งผงชูรสอีกต่อไป นอกจากนี้ก็จะนำไปเป็นยารักษาโรค เช่น ความดัน เบาหวาน เครียด นอนไม่หลับ และโรคอื่น ๆ และยังช่วยให้เจริญอาหาร นอนหลับง่ายหลับสนิทได้อีกด้วย แต่ก็ยังสงสัยว่าต้นกัญชาของเพื่อนบ้านทำไมถึงโตเร็วได้อย่างนี้ เพราะต้นของตนเองยังเป็นต้นกล้าเล็ก ๆ ก็คงจะต้องไปขอสูตรจากเพื่อนบ้านว่าต้องใช้ดินอะไรปลูก ต้นกัญชาถึงจะโตไวอย่างเพื่อนบ้าน หรือเขามีปุ๋ยเทวดา หรือดินเทวดาปลูกจริง ๆ ก็คงจะต้องหาซื้อมาปลูกต่อไป
ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ก็ได้ออกมาขอความร่วมมือจากประชาชนว่าถ้าใครจะปลูกต้นกัญชา ก็ขอให้แจ้งกับทางสาธารณะสุขจังหวัดให้ทราบด้วยว่าปลูกกี่ต้น ปลูกเพื่อวัตถุประสงค์อะไร อย่างไรก็ตาม ถึงท่านจะไม่แจ้งให้ทางสาธารณะสุขจังหวัดได้รับทราบก็ยังไม่มีความผิด เพราะขั้นตอนนี้เป็นเพียงการขอความร่วมมือ เนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับกัญชายังไม่มี ต้องรอจนกว่าทาง ครม. จะมีกฎหมายใหม่ออกมาถึงจะให้ปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ ซึ่งขณะนี้มีคนโทรเข้ามาสอบถามกันจำนวนมาก ตนก็ได้แนะนำให้แจ้งการปลูกผ่านทางโมบาย แอพพลิเคชั่น เพราะประชาชนสามารถทำได้เอง