31 พ.ค. 2565 นายสมหมาย ทุมรินทร์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านหนองหญ้าปล้อง อยู่บ้านเลขที่ 87 หมู่ 7 ต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า น้องชายของตนชื่อ นายนิกร ทุมรินทร์ ได้เสียชีวิตจากการผูกคอตาย เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2539
แต่ปรากฎว่า ยังมีชื่อ นายนิกร ทุมรินทร์ อยู่ในทะเบียนราษฎร์ ตามสำเนาทะเบียนบ้านเลขที่ 87 หมู่ 7 อยู่เช่นเดิมโดยไม่มีการแจ้งสถานะ การตาย หรือ จำหน่าย ออกจากทะเบียนราษฎร์ แต่อย่างใด ทั้งที่ความจริงน้องชายของตนได้ตายไปนานแล้วกว่า 27 ปี ส่งผลให้ตนมีความเดือดร้อน ไม่สามารถทำธุระกรรม และบริหารจัดการกิจกรรมซึ่งเป็นเรื่องภายในครอบครัวได้
ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวเกิดจาก เมื่อ ปี พ.ศ.2539 (ผู้ร้องจำวันที่และเดือนไม่ได้) ตนได้รับแจ้งว่า น้องชายของตนได้เสียชีวิตจากการผูกคอตาย ในพื้นที่รับผิดชอบที่ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เดินทางไปรับศพน้องชาย กับญาติๆ และนายเสรี แสงมณี (อดีตผู้ใหญ่บ้าน) เป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ในปีนั้น
โดยได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าของคดี (พนักงานสอบสวน) ว่า เอกสารหลักฐานการเสียชีวิต ของนายนิกรฯ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งเอกสารการเสียชีวิตของน้องชายให้ภายหลัง ตามที่อยู่ในบัตรประชาชนของตน ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย ได้ยึดบัตรประชาชของตนเอาไว้เป็นหลักฐาน
ตนและครอบครัว ก็ได้แต่รอแล้วรอกระทั่งถึงปัจจุบัน ตำรวจซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีการเสียชีวิตของน้องชายตน ก็ไม่ได้ส่งมาให้สักที
ขณะเดียวกัน ตนและครอบครัวพยามเดินทางไปแจ้งการตายที่สำนักงานทะเบียนราษฎร์อำเภอนามน ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้รับแจ้งการตายให้ เนื่องจากไม่มีเอกสารหลักฐานการเสียชีวิตมาแสดงต่อเจ้าพนักงาน ทำให้มีความเดือดร้อนมาก โดยไม่สามารถกระทำธุระกรรมภายในครอบครัวได้แม้แต่ครั้งเดียว จึงได้มาขอความช่วยเหลือกับผู้สื่อข่าว และเดินทางมาร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนามน
ด้าน นางสาวอ้อมอารีย์ ยี่วาศรี นายอำเภอนามน จ.กาฬสินธุ์ ได้รับทราบปัญหาพร้อมกับมอบหมายให้ นายจักรกฤษณ์ ปรีกุล ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร ตรวจสอบข้อมูลจากระบบการทะเบียน ปรากฎว่า รายการบุคคลของ นายนิกร ทุมรินทร์ ยังอยู่ในฐานข้อมูลของระบบทะเบียนจริง ยังไม่มีการจำหน่ายออกจากระบบทะเบียนราษฎร์จริง
ในเบื้องต้น ทางอำเภอนามน ได้แนะนำให้ผู้ร้องทุกข์ นำพยาบุคคลที่รู้เห็นการตาย มาพบเจ้าพนักงานสำนักงานทะเบียนและบัตรอำเภอนามน เพื่อสอบปากคำให้ได้ข้อเท็จว่า บุคคลดังกล่าว ได้เสียชีวิตจริง ทางอำเภอก็จะได้ “จำหน่ายชื่อ” ออกจากทะเบียน ตามระเบียบสำนักทะเบียนกลาง เพื่อให้ผู้ร้องได้นำไปใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการทำธุระกรรมต่างๆได้ต่อไป