กาฬสินธุ์ จากสถานการณ์ฝนตกหนักจนทำให้เกิดน้ำท่วมในภาคเหนือ ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว (เขื่อนลำปาว) มีการปรับแผนรับมือมวลน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำตลอดเวลา คาดสิ้นหน้าฝนจะมีน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำเพียงพอไว้ใช้ในหน้าแล้งนี้
นายสำรวย อินพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กล่าวว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำลำปาวตอนนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ควบคุม แต่ว่ายังมีปริมาณน้ำมากกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่ง ณ ตอนนี้เราต้องดูพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกหน้าอ่างฯของเรายังอยู่ในเกณฑ์ของค่าเฉลี่ย ทำให้ Inflow (น้ำไหลเข้าอ่าง) ของเราค่อนข้างที่จะดี ซึ่งตอนนี้น้ำไหลเข้าอ่างต่อวันๆละ 20-30 ล้าน ลบ.ม. ก็ยังอยู่ในค่าเฉลี่ยการรับน้ำของเดือนที่ผ่านมา เราคาดการณ์ว่าปริมาณฝนจะอยู่ในค่าเฉลี่ยหรือมากกว่าค่าเฉลี่ยเพียงเล็กน้อย ทำให้ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างน่าจะเป็นไปตามแผนที่เราได้คาดการณ์เอาไว้ ก็จะทำให้ปริมาณน้ำที่เราคาดการณ์ว่าจะเก็บกักไว้ในอ่างฯ ได้ประมาณ 1,600 – 1,800 ล้าน ลบ.ม.
ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กล่าวอีกว่า ที่เราวางแผนเก็บกักน้ำไว้ 1,600 – 1,800 ล้าน ลบ.ม. ก็จะทำให้มีน้ำใช้เพียงพอทุกกิจกรรม ทั้งด้านการเกษตร ประปา อุตสาหกรรม หรือด้านการรักษาระบบนิเวศน์ และจะมีน้ำดูแลพื้นที่การเกษตรด้านท้ายเขื่อนด้วย จึงขอให้เกษตรกรมั่นใจว่ามีน้ำใช้เพียงพอในช่วงหน้าแล้ง ส่วนปีนี้น้ำจะท่วมหรือไม่ท่วมนั้นต้องดูว่าจะมีฝนตกหนักในบริเวณหน้าอ่างของเราหรือไม่ หากตกหนักเรายังสามารถควบคุมน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ของเราได้ ก็จะเป็นไปตามแผนของเราที่วางไว้ อย่างวานนี้กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่ากาฬสินธุ์จะมีฝนตก แต่ฝนก็ไม่ตก ทำให้เราต้องมีการปรับแผนตลอด เพราะบางทีพื้นที่ที่กาฬสินธุ์ไม่ตก แต่อาจจะตกที่อุดรธานี ซึ่งน้ำจากอุดรธานีก็มาไหลลงที่เขื่อนลำปาวของเรา ทำให้เห็นว่าน้ำในเขื่อนของเรามีสีขุ่นเพราะตอนนี้น้ำหลักๆ ที่มาในเขื่อนก็มาจากอุดรธานีฝั่งหนองหาน
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว ประจำวันที่ 29 ส.ค. 2567 มีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ 1,154.24 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 58.29% มากกว่าปริมาณน้ำเฉี่ย 242.89 ล้าน ลบ.ม. น้อยกว่าปริมาณน้ำปี 2566 จำนวน 167.48 ล้าน ลบ.ม. มีจำนวนน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ (Inflow) จำนวน 13.81 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำทั้งหมด 11.65 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำฝนสะสม ตั้งแต่ ม.ค. ถึงปัจจุบัน จำนวน 684.7 มม.
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com