กาฬสินธุ์ จากมีอินฟลูเอนเซอร์นำเรื่องราวของหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท ไปเผยแพร่ ทำให้หลวงปู่ฯ ที่มีลูกศิษย์มากอยู่แล้ว ได้ขยายฐานลูกศิษย์มากยิ่งขึ้นไปอีก ส่งผลให้วัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ได้รับความนิยมสูงตามไปด้วย ไม่เฉพาะในไทย แต่เป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติ ทั้งจีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน เป็นต้น ตามที่ได้นำเสนอข่าวแล้วนั้น ทำให้ปัจจุบันเพจเฟสบุ๊กหลัก “หลวงปู่ศิลา สิริจันโท” ที่ได้รับการรับการอนุญาตจากพระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) ให้เผยแพร มีจำนวนผู้ติดตาม 1.2 แสนคน และยังพบมีมิจฉาชีพได้ฉวยโอกาสที่กระแสความศรัทธาของหลวงปู่ศิลาที่กำลังได้รับความนิยม สร้างสื่อโซเชียลทั้งทาง Facebook และ TikTok เกี่ยวกับการให้หวยหรือเลขเด็ด เพื่อให้ประชาชนสนใจและกดติดตามเพจของตน
ล่าสุดวันที่30 เม.ย. 2567 ทนายความวัดพระธาตุหมื่นหิน ได้นำเอกสารเข้าร้องทุกข์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับมิจฉาชีพให้ถึงที่สุด โดยมี ร.ต.อ.หญิง เพ็ญนภา เศษวงค์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ รับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวไว้ เพื่อเร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสุรเชษฐ์ ประสมศรี หรือทนายโจ้ ทนายความวัดพระธาตุหมื่นหิน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายให้มาแจ้งความดำเนินคดี กับกลุ่มบุคคลที่นำภาพหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ไปใช้แสวงหาผลประโยชน์โดยทุจริต โดยมีการนำภาพหลวงปู่ศิลา สิริจันโท และวัดพระธาตุหมื่นหิน ไปแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และทำการโพสต์ลงในสื่อโซเชียลทั้งทาง Facebook และ TikTok เกี่ยวกับการให้หวยหรือเลขเด็ด เพื่อให้ประชาชนสนใจและกดติดตามเพจของตน ซึ่งในข้อเท็จจริงหลวงปู่ศิลา สิริจันโท และวัดพระธาตุหมื่นหิน ไม่ได้มีการใบ้หวยแต่อย่างใด การกระทำดังกล่าว เป็นเหตุให้หลวงปู่ศิลา สิริจันโท และวัดพระธาตุหมื่นหิน ได้รับความเสียหาย ผมในฐานะทนายความจึงได้มาร้องทุกข์ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวในความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เพื่อให้กลุ่มมิจฉาชีพได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป โดยทางวัดพระธาตุหมื่นหิน ต้องขอขอบคุณประชาชนที่แจ้งข้อมูลมาให้ทางวัดทราบ หลังจากทางวัดทราบเรื่องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้ทนายความรวบรวมพยานและหลักฐานดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้ถึงที่สุด
ทนายสุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวผมในฐานะทนายความของวัดพระธาตุหมื่นหิน อยากจะฝากถึงบุคคลที่นำภาพหลวงปู่ศิลา สิริจันโท ไปใช้เพื่อแอบอ้างเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในทางทุจริตนั้น ขอให้หยุดดำเนินการ ด้วย เพราะที่ผ่านมา ตัวผมในฐานะทนายความ เมื่อมีบุคคลมาแอบอ้างหลวงปู่ศิลาหรือทางวัดพระธาตุหมื่นหิน ไปแสวงหาผลประโยชน์โดยทุจริต หรือแอบอ้างแล้วไปกระทำการผิดกฎหมายใดๆ ตัวผมได้ดำเนินการฟ้องร้องให้ได้รับโทษตามกฎหมายไปแล้วหลายคดี
อย่างไรก็ตามทนายสุรเชษฐ์ กล่าวเพิ่มว่า ตอนนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าลูกศิษย์หรือประชาชนท่านใดมีเบาะแสเพจมิจฉาชีพ สามารถเข้าไปแจ้งได้ที่เพจ สำนักงานทนายความสุรเชษฐ์ ประสมศรี หรือที่เฟสบุ๊ก ทนายโจ้ สุรเชษฐ์