• จันทร์. พ.ย. 25th, 2024

ร้องผู้ว่าฯ-สื่อฯกาฬสินธุ์ คดีบุกรุกตัดไม้ป่าสงวนแห่งชาติส่อแววล้มคดี

วันนี้ (26 เม.ย. 65) ผู้นำท้องถิ่นจาก อำเภอสามชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้สั่งการเร่งรัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ อ.สามชัย (ก.ส.3) ไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจร้อยเวรสอบสวน สภ.สามชัยด่วน กรณีเหตุมีการบุกรุกตัดไม้ในป่าสงวนเทือกเขาภูพาน ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาให้ปากคำแต่บ่ายเบี่ยง เกรงว่าคดีอาจมีการวิ่งเต้นช่วยเหลือผู้ต้องสงสัย เพราะหลังวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ปกครองมาพบผู้แจ้งดำเนินคดีให้ถอนแจ้งความ

นายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน ในฐานะผู้นำท้องถิ่น ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “สืบเนื่องจากวันที่ 6 เม.ย. 65 ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านท่างาม ต.สำราญ อ.สามชัย ว่ามีอดีตผู้ใหญ่บ้าน บ้านท่างามพร้อมพวก ที่มีประวัติการบุกรุกป่าสงวน และมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด กำลังบุกรุกตัดไม้ในป่าสงวนเทือกเขาภูพาน พร้อมทั้งยังกำลังจะนำออกไปขายตามที่ได้คำสั่งซื้อจากลูกค้า ตนจึงได้โทรศัพท์ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามชัย เข้าตรวจยึดจับกุม ตามภาพข่าว ซึ่งสารวัตรสอบสวน สภ.สามชัยได้เรียกตนและทีมผู้นำหมู่บ้าน บ้านท่างามเข้าให้ปากคำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยดังกล่าวมาให้ปากคำ แต่ยังไม่มีการตอบรับพร้อมทั้งยังบ่ายเบี่ยงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตนเกรงว่าคดีนี้อาจมีการวิ่งเต้นช่วยเหลือผู้ต้องสงสัย เพราะมีเจ้าหน้าที่ปกครองระดับปลัดอำเภอมาหาตนที่บ้านพัก เพื่อให้ตนถอนแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัย จึงได้เดินทางเข้าส่งหนังสือให้ศูนย์ดำรงธรรมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เร่งดำเนินคดีโดยเร่งด่วน เพราะคาดว่าคดีลักลอบตัดไม้ป่าสงวนแห่งชาติครั้งนี้จะมีนักการเมืองท้องถิ่น ถึงขั้นนักการเมืองระดับประเทศอยู่เบื้องหลังด้วย”

นายกอบโชคชีพ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตนเองและชาวบ้านน้อมนำพระราโชวาทที่ทรงมอบให้ประชาชนรักษาป่าเพื่อให้เป็นป่าต้นน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนลำปาว หากไม่รักษาตอนนี้ป่าสงวนแห่งนี้คงจะหมดจากเทือกเขาภูพาน ฉะนั้นตนและทีมงานผู้นำหมู่บ้านพร้อมชาวบ้าน จึงร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์โปรดเล็งเห็นความสำคัญของป่าไม้ และโปรดสั่งการเรื่องนี้โดยด่วน เพื่อจะได้ความชัดเจนของคดีความแก่ชาวบ้านต่อไป”