• จันทร์. พ.ย. 25th, 2024

กาฬสินธุ์จัดเวทีเสวนา การขับเคลื่อน โคก หนอง นา กาฬสินธุ์กรีนมาร์เก็ต สู่เมืองเกษตรอินทรีย์

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดเวทีเสวนาเรื่อง “การขับเคลื่อน โคก หนอง นา กาฬสินธุ์กรีนมาร์เก็ต สู่เมืองเกษตรอินทรีย์” ณ เวทีจัดงาน บริเวณลานจอดรถหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ (หลังเดิม) เนื่องในการจัดงาน “เปิดเฮือน โคก หนอง นา Kalasin Green Market” ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2566

เวทีเสวนาการขับเคลื่อน โคก หนอง นา กาฬสินธุ์กรีนมาร์เก็ต สู่เมืองเกษตรอินทรีย์จังหวัดกาฬสินธุ์ โดย นายชัชชัย กลีบมะลิ ผอ.กลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน, นายบุญชอบ ลีลานุช ประธานเครือข่าย โคก หนอง นา จังหวัดกาฬสินธุ์, นางอุไลย์ ทบวัน ประธาน Young Smart Farmer, นางสุจารี ธนสิริธนากร ผู้จัดการสวนปันบุญ อ.ฆ้องชัย และ ดร.นิรุจน์ อุทธา หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมี นายศักดิ์ชัย รัชโพธิ์ ที่ปรึกษาพัฒนาการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ

ดร.นิรุจน์ อุทธา หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวถึงประเด็นการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะจังหวัดกาฬสินธุ์สู่เมืองเกษตรอินทรีย์ว่า แปลง โคก หนอง นา กาฬสินธุ์ จำนวน 2,748 แปลง ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ คือพื้นฐานของการขับเคลื่อนเมืองเกษตรอินทรีย์ ที่ครอบคลุมเต็มพื้นที่ทุกตำบลของจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเกิดจากการระเบิดจากข้างในของของคนที่มีจิตใหญ่ใจสาธารณะ และมีจิตอุดมการณ์ทำเกษตรแบบอินทรีย์ที่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประกอบกับนโยบายจังหวัดกาฬสินธุ์ปี 2566-2570 ได้กำหนดแผนงาน/โครงการยกระดับกาฬสินธุ์กรีนมาร์เก็ตสู่เกษตรอินทรีย์ อย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ตามเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด (คำขวัญจังหวัด) คือ “มั่งคั่งด้วยอาหารปลอดภัย ท่องเที่ยววิถีใหม่ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” โดยได้นำต้นแบบที่ประสบผลสำเร็จด้านการทำเกษตรอินทรีย์ มาเป็นบทเรียนเพื่อการขยายผล ได้แก่ การปลูกผักอินทรีย์ของ สวนปันบุญ และผลผลิตเกษตรอินทรีย์กลุ่มเกษตรรุ่นใหม่ Young Smart Farmer ที่สามารถพิสูจน์แล้วว่า ผักอินทรีย์งามกว่าผักเคมี มีตลาดรองรับ จนผลิตไม่เพียงพอ การนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ทำน้อยได้มาก และการขอรับรองมาตรฐานอินทรีย์ก็ไม่เป็นเรื่องยุ่งยากหากทำจริง ทำให้มีรายคุ้มค่าและใช้พื้นที่ไม่มากเหมือนเมื่อก่อน สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้คนในชุมชนได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ผลผลิตการเกษตรยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง สิ่งทอ จำหน่ายเป็นของฝาก ของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยวได้อีกด้วย โดยเฉพาะการขายทางออนไลน์ช่วยสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้น

“โดยปัจจุบันจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เปิดร้านจำหน่ายสินค้า “เฮือน โคก หนอง นา กรีนมาร์เก็ต” ให้กับเครือข่าย Young Smart Farmer ร่วมกับบริษัทประชารัฐรักสามัคคีฯ บริเวณฝั่งตรงข้าม รพ.กาฬสินธุ์ ทำให้ได้รับความสนใจจากผู้บริโภค ญาติผู้ป่วย นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป แวะมาซื้อของฝากผู้ป่วย สินค้าคุณภาพ อาหารปลอดภัย ของดีจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งต่อไปจะกลายเป็น Land Mark ศูนย์รวมสินค้าคุณภาพดี เกษตรอินทรีย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งแต่พืชผักผลไม้ สินค้าแปรรูป สินค้า OTOP สินค้าท่องเที่ยว สินค้า GI ที่เป็น Champion Products of Kalasin ตลอดจนบริการข้อมูลด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับของดีเมืองกาฬสินธุ์ในอนาคต โอกาสนี้เพื่อเป็นการรวมพลังขับเคลื่อน โคก หนอง นา กาฬสินธุ์กรีนมาร์เก็ต สู่เมืองเกษตรอินทรีย์ ผู้ร่วมเวทีฯ จึงได้กล่าวรวมพลังพร้อมกันว่า “โคก หนอง นา คือความหวัง เกษตรอินทรีย์คืออนาคต หัวใจคือรายได้ คนกาฬสินธุ์หายจากความยากจน กาฬสินธุ์เมืองแห่งคนดีและมีความสุข ไชโย ไชโย ไชโย”” ดร.นิรุจน์ กล่าวเสริม

ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com