เช้าวันนี้ (17 มิ.ย. 2566) เวลา 09.00 น. ภาครัฐและภาคเอกชน จัดกิจกรรม Kalasin Car Rally 2023 ปลูกป่าภูเขาเปลี่ยนสีภูสิงห์ ครั้งที่ 1 โดยมีเจ้าภาพหลัก 2 ภาคเอกชน ประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ สมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ และหน่วยงานเครือข่ายร่วมกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเปิดมิติใหม่ในการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ ประชาสัมพันธ์ของดี ของเด่น ของดัง และสถานที่ท่องเที่ยวร้านค้าชุมชนในพื้นที่ โดยมีนายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนายปราชญา อุ่นเพชรวรากร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ นายสิทธิชัย อินทุประภา รองผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานขอนแก่น น.ส.ชนิดา ตั้งเทวนนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ ดร.วัชรพงศ์ ชาวสามทอง นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ นางพิไรรัตน์ บริหาร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ (ผู้บริหาร บริษัท เพชรดำฟู้ดส์ ผู้ผลิตน้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ) นายฉัตรชัย วิรุุฬห์วรวุฒิ ประธานหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ และผู้เข้าร่วมแข่งขันแรลลี่ สื่อมวลชน เข้าร่วมพิธีเปิด ณ ห้องนิทรรศการ หอศิลป์กาฬสินธุ์ พิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์
นายจารุวัฒน์ บุญเพิ่ม นายกเทศมนตรีเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวต้อนรับว่า ในนามพื้นที่ดำเนินงาน ขอขอบพระคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ อย่างสูงที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการกิจกรรม Kalasin Car Rally 2023 ปลูกป่า ภูเขาเปลี่ยนสี ณ ภูสิงห์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ครั้งที่ 1” ณ ห้องนิทรรศการ หอศิลป์กาฬสินธุ์ พิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์ และขอต้อนรับทุกท่านในที่นี้ด้วยความยินดียิ่ง เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ มีนโยบายในการพัฒนาท้องถิ่นให้บรรลุวิสัยทัศน์ เป็น “เมืองอุดมสุข” พัฒนาเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ให้เป็น เมืองน่าอยู่ เมืองน่าท่องเที่ยว เมืองน่าลงทุน และเมืองน่าศึกษา พิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์ (หอศิลป์) เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์มีแนวทางในการส่งเสริม พัฒนา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ และเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงทุกมิติ ทั้งทางด้านการศึกษา การท่องเที่ยว พร้อมทั้งเปิดพื้นที่สร้างสรรค์เศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของคนในชุมชน อีกทั้ง เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์และภาคี เครือข่ายมีแนวทางในการพัฒนาเทศบาลเมืองกาพสินธุ์ สู่การเป็น “เมืองแห่งการเรียนรู้” Kalasin Learning City โดยกำ หนดให้ พิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์ (หอศิลป์) เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ซึ่งตลอดระยะเวลาผ่านมา จะเห็นได้ว่าเรามีการขับเคลื่อนหมุนเวียนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งทางด้านศิลปกรรมร่วมสมัย จัดแสดงผลงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง จากศิลปินแนวหน้าของเมืองไทย และศิลปินท้องถิ่น จัดกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้และส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น เปิดพื้นที่สร้างสรรค์เศรษฐกิจทุกวันอังคารของสัปดาห์ เปิดพื้นที่เรียนรู้ด้านดนตรี ศิลปะ และวัฒนธรรม ให้กับ เด็กเยาวชน ประชาชน เปิดพื้นที่การเรียนรู้ ด้านประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้ง ของดีจังหวัดกาฬสินธุ์ เชื่อมโยง การท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อนำ ไปสู่การเป็น “เมืองแห่งการเรียนรู้” ต่อไป
นายสิทธิชัย อินทุประภา รองผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานขอนแก่น กล่าวถึงแนวทางการบูรณาการทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า ททท. มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานในจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ อย่างกิจกรรม Kalasin Car Rally 2023 ที่จัดขึ้นในวันนี้ ก็เป็นกิจกรรมที่ดี เป็นการท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงเป็นการยกระดับภาพลักษณ์สู่การท่องเที่ยวของจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เพียบพร้อมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ธรณีวิทยา วัฒนธรรม และด้านอื่นๆ อย่างดีอยู่แล้ว
นางสาวชนิดา ตั้งเทวนนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า กิจกรรมในวันนี้ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ และ สมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการดำเนินโครงการนี้ โดยบูรณาการร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสารสินธุ์ ตามแผนงานการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ได้วางแผนไว้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป้าหมาย 3 ประการ คือ 1.เน้นการกระจายรายได้สู่ชุมชน 2.เน้นการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน และ 3.ช่วยส่งเสริม ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์
“โครงการกิจกรรม Kalasin Car Rally 2023 ปลูกป่าภูเขาเปลี่ยนสีภูสิงห์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ครั้งที่ 1” นี้ ยังเน้นกิจกรรมการท่องเที่ยวในเส้นทางการทำกิจกรรม ซึ่งผ่านอำเภอที่มีความสำคัญทางการท่องเที่ยว อาทิ อำเภอเมือง อำเภอกมลาไสย อำเภอยางตลาด และอำเภอสหัสขันธ์ ทั้งนี้ จะสิ้นสุดการเดินทาง ณ อำเภอสหัสขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่องของการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ อุทยานธรณีกาฬสินธุ์ Kalasin GEOPark ที่มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่มากถึง 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอคำม่วง อำเภอสมเด็จ อำเภอห้วยผึ้ง อำเภอนาคู อำเภอเขาวง และอำเภอกุฉินารายณ์
น.ส.ชนิดา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “นอกจากกิจกรรมแรลลี่ในวันนี้แล้ว ในนามตัวแทนผู้ดำเนินโครงการขอเชิญชวนทุกท่าน ได้ร่วมอีก 1 กิจกรรม คือ “โครงการทอดผ้าป่าต้นไม้เปลี่ยนสีทำความดีสร้างป่าชุมชนบนเขาภูสิงห์” ในเช้าวันพรุ่งนี้ วันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย. 2566 ซึ่งจะเป็นการร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ เป็นจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวที่จะมาทำบุญที่วัดพุทธาวาสภูสิงห์ ได้ชื่นชมความงามของสีสันสดใสตลอดทั้งปี ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดกาฬสินธุ์ คณะทำงานจึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่าน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 17-18 มิ.ย. 2566 นี้ โดยโครงการนี้เป็นโครงการระยะยาวต่อเนื่อง 5 ปี ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนสืบไป
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสอันดีที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จะได้ถือโอกาสนี้ในการเปิดบ้านประชาสัมพันธ์ของดี ของเด่น ของดัง และสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้าชุมชนในพื้นที่ ซึ่งมีความพร้อมสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดทุกฤดูกาล ทั้งยังช่วยสร้างการรับรู้ผ่านผู้เข้าร่วมกิจกรรมกาฬสินธุ์คาร์แรลลี่ครั้งนี้ด้วย โดยเส้นทางการทำกิจกรรมล้วนผ่านอำเภอที่มีความสำคัญทางการท่องเที่ยว อาทิ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอกมลาไสย อำเภอยางตลาด และอำเภอสหัสขันธ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางการท่องเที่ยวของ Kalasin GEOPark (กาฬสินธุ์ จี โอ พาร์ค) อุทยานธรณีกาฬสินธุ์ ที่ปัจจุบันกำลังส่งเสริมพัฒนาให้เป็นที่รู้จัก ผ่านกิจกรรมท่องเที่ยวและยังสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนให้คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง หลังสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าทุกๆ ท่านจะได้พบกับแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจ มีกิจกรรมและสิ่งที่น่าสนใจ ตลอดการเดินทางท่องเที่ยว เช่น พระธาตุยาคู อำเภอกมลาไสย วัดสว่างหัวนาคำ อำเภอยางตลาด พิพิธภัณฑ์สิรินธร วัดพุทธนิมิตภูค่าว และสะพานเทพสุดา อำเภอสหัสขันธ์ เป็นต้น
โดยเส้นทางแรลลี่ในครั้งนี้ มีทั้งหมด 13 จุด
จุดที่ 1. เดินทางถึง พระธาตุยาคู (ทำ กิจกรรม 30 นาที)
จุดที่ 2. เดินทางถึง วัดสว่างหัวนาคำ (ทำ กิจกรรม 20 นาที)
(รับประทานอาหารกลางวันโดยเลือกสถานที่ จุดที่ 3 – 7 ใช้เวลารับประทานอาหาร
กลางวัน 60 นาที ผู้ลงทะเบียนทุกท่านใช้คูปองอาหารมูลค่า 200 บาทต่อท่าน)
จุดที่ 3. โปงลางคาเฟ่
จุดที่ 4. เฮือนคำน้อยคำ นาง สาขายางตลาด กาฬสินธุ์
จุดที่ 5. โฮมสุข – Home Sook
จุดที่ 6. สวนตาเยี่ยมกาฬสินธุ์
จุดที่ 7. สวนอาหาร ธ.กุ้งเผา กาฬสินธุ์
จุดที่ 8. เดินทางถึง สันเขื่อนลำ ปาว (ลานพญานาค) (ทำ กิจกรรม 10 นาทีี)
จุดที่ 9. เดินทางถึง พิพิธภัณฑ์สิรินธร (ทำ กิจกรรม 40 นาที)
จุดที่ 10. เดินทางถึง ร้านของฝากชุมชน ณ PTT Station ปตท. สหัสขันธ์ (ทำกิจกรรม 15 นาทีี)
จุดที่ 11. เดินทางถึง วัดพุทธนิมิตร ภูค่าว (ทำ กิจกรรม 30 นาทีี)
จุดที่ 12. เดินทางถึง เกาะมหาราช จุดเช็คอินสะพานเทพสุดา (ทำกิจกรรม 10 นาที)
จุดที่ 13. ผู้เข้าร่วมฯ ถึงเส้นชัย (Rally Finish) ณ ลานอนุสาวรีย์ปู่เซียงโสม เชิงสะพานเทพสุดา (เขื่อนลำ ปาว สะพานเทพสุดา ลานไดโนเสาร์)
16.00 – 17.00 น. ถึงเส้นชัย ลงทะเบียนรับกุญแจห้องพัก เดินทางไปเข้าที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย (ปรัชญารีสอร์ท)
17.00-22.00 น. กิจกรรมสังสรรค์ และประกาศผลรางวัล ณ แพรวรรณา แพรล่องเขื่อนลำปาว
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน