• อาทิตย์. พ.ย. 24th, 2024

เวทีภาคประชาชนเสนอการแก้ปัญหาความยากจนเป็นวาระของจังหวัดกาฬสินธุ์

เวทีภาคประชาชนเสนอการแก้ปัญหาความยากจนเป็นวาระของจังหวัดกาฬสินธุ์ ขณะที่สภาเกษตรกรฯ สนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะน้ำแล้งน้ำท่วมอย่างจริงจัง ในเวทีเสวนาปลดหนี้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน

วันที่ 22 เมษายน 2566 เวลา 10.00 น. ณ บ้านสวนทรัพย์โสภา ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ดร.นิรุจน์ อุทธา หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมเวทีสานเสวนาหาทาง “ปลดหนี้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน” จัดโดย เครือข่ายประชาชนแก้หนี้แห่งประเทศไทยและเครือข่ายเกษตรยั่งยืนจังหวัดกาฬสินธุ์ วัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้บทเรียนความยากจน การเป็นหนี้ ปัญหาของอาชีพเกษตรกรรม และแนวทางการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายการแก้ปัญหาความยากจน การแก้ปัญหาหนี้ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร มีผู้แทนเครือข่ายภาคประชาชนจากหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานร่วมเวทีได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา อุบลราชธานี อำนาจเจริญ เป็นต้น โดยเวทีภาคประชาชนได้เสนอให้ การแก้ปัญหาความยากจนเป็นวาระของจังหวัดกาฬสินธุ์ ขณะที่สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ สนับสนุนให้การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะแก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมอย่างจริงจัง

ดร.นิรุจน์ อุทธา หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ผู้ร่วมเวทีเสวนาแนวทางการปลดหนี้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน ได้ตอบคำถามผู้ดำเนินรายการ 2 ข้อ คือ 1. สาเหตุของปัญหาหนี้สินและความยากจนของเกษตรกรเกิดมาจากอะไร ? และ 2.หน่วยงานของท่านมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาอย่างไร ? สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ได้แสดงทัศนะว่า ปัญหาความยากจนและการมีหนี้สินของเกษตรกรนั้นเกิดมาจากหลายสาเหตุ ทั้งปัญหาด้านที่ทำกิน ปัญหาด้านน้ำเพื่อการเกษตรทั้งแล้งทั้งท่วม ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ และไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านการตลาด เป็นต้น แต่ที่สำคัญคือ การประกอบอาชีพเกษตรกรรม เป็นอาชีพที่มีรายได้น้อย ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย จึงทำให้เกิดปัญหาหนี้สิน และส่วนใหญ่เกษตรกรไม่สามารถปลดหนี้ได้ บทบาทสำคัญของสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ คือการรับฟังปัญหาของเกษตรกร แล้วนำไปจัดทำเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายในระดับต่างๆ ทั้งระดับตำบล อำเภอ จังหวัด หรือระดับชาติ รวมถึงการศึกษาวิจัยพัฒนาโมเดลหรือนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อการขยายผลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การแก้ปัญหาหนี้สินและความยากจนของเกษตรกร ส่วนหนึ่งเกิดมาจากปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมเป็นสำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่มีน้ำแล้งและน้ำท่วมซ้ำซาก จะทำให้เกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้กลายเป็นผู้มีรายได้น้อย เป็นหนี้ และยากจนในที่สุด ดังนั้น การแก้ปัญหาตามบทบาทหน้าที่ของสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงสนับสนุนให้ “การบริหารจัดการเรื่องน้ำแล้ง น้ำท่วม เป็นวาระของจังหวัด” เพื่อให้หน่วยงานทุกภาคส่วนมาร่วมกันวางแผน ออกแบบในเชิงสถาปัตยกรรม วิศวกรรม ผังเมือง พลังงาน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี การบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรอย่างเป็นระบบในภาพรวมจังหวัด และกระจายการจัดการไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงการสร้างโมเดลระบบน้ำเพื่อการเกษตรต้นแบบระดับพื้นที่ให้เกิดขึ้น อาทิ หมู่บ้าน/ตำบลต้นแบบการพัฒนาระบบน้ำประปาในไร่นาเพื่อการเกษตรคุณภาพสูงแบบประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น อันจะส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตการเกษตรสูงขึ้น แล้วขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งจังหวัด รวมถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วม การจัดการเส้นทางเดินของน้ำ การกระจายน้ำ การจัดเก็บน้ำในฤดูน้ำหลากเพื่อใช้ในฤดูแล้ง การพัฒนาระบบน้ำใต้ดินด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น ทั้งนี้หากไม่กำหนดเป็นวาระของจังหวัดแล้ว ก็อาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม ได้อย่างยั่งยืน ก็จะก่อปัญหาและเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำให้อาชีพการเกษตรประสบปัญหาขาดทุน มีรายได้น้อย มีหนี้สิน และยากจน อย่างไม่สิ้นสุด ดร.นิรุจน์กล่าว นอกจากนี้ สกจ.กาฬสินธุ์ ยังสนับสนุนให้มีการพัฒนาอาชีพการเกษตรไปสู่เกษตรยุคใหม่ เป็นการเกษตรคุณภาพ ทำน้อยได้มาก และพัฒนากลไกการตลาดในยุคดิจิทัลอีกด้วย

นอกจากนี้ เวทีเสวนาฯ ยังเสนอให้ การแก้ปัญหาความยากจนเป็นวาระของจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ แนวทางการปลดหนี้ การสร้างรายได้ดี ไม่มีคนจน ดำรงตนแบบพอเพียง โดยบูรณาการไปกับ นโยบาย 3 รวยของผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ แผนพัฒนาจังหวัด 20 ปี แผนพัฒนาจังหวัดแบบยั่งยืน(SDGs) โครงการแก้ปัญหาความยากจนฯ การขับเคลื่อนแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมการเกษตร “กาฬสินธุ์ตำนานเมืองไดโนเสาร์โลก (Jurassic World)” และการพัฒนากาฬสินธุ์ Geopark สู่อุทยานธรณีโลก เป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้ให้คนกาฬสินธุ์โดยรวมอีกด้วย

#OKAY KALASIN #Smart Green City

ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com