• ศุกร์. พ.ย. 22nd, 2024

แม้ว่าทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านแล้ว แต่หากผิวเผชิญกับแดดแรงเป็นเวลานานก็อาจทำให้ผิวไหม้แดดได้ โดยผิวบริเวณที่สัมผัสแสงแดดจะค่อย ๆ เป็นรอยไหม้หลังอยู่กลางแดดที่ร้อนจ้านานกว่า 15 นาที อย่างไรก็ตาม ปัญหาผิวไหม้แดดมีทางออกและวิธีการมากมายที่ช่วยดูแลและฟื้นฟูสภาพผิวที่ไหม้เสียให้กลับมามีสุขภาพดีได้ ดังนี้

รักษาผิวไหม้แดดด้วยตนเอง

ทาผิวด้วยว่านหางจระเข้ จากงานวิจัยพบว่าเนื้อวุ้นใสของว่านหางจระเข้ ช่วยรักษาโรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบ ผิวแห้งแตก ผิวถลอก และช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดที่ไม่รุนแรงมากได้ เพราะว่านหางจระเข้มีกรดซาลิซิลิก คอยยับยั้งแบคทีเรีย และช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังใหม่  อีกทั้งยังมีสารช่วยปกป้องและสมานผิวอื่น ๆ อีกมากมาย โดยควรใช้เนื้อว่านหางจระเข้จากธรรมชาติ หรือเจลที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ 100% ไม่ผสมสี กลิ่น สารเคมี และน้ำหอม ทาลงบนผิวไหม้แดดเพื่อลดอาการอักเสบจากการถูกแดดเผา เพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณเนื้อเยื่อของแผล อาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในบริเวณที่เกิดการไหม้ หากต้องการให้ผิวหายได้อย่างรวดเร็ว อาจเลือกใช้เจลว่านหางจระเข้ 100% ในรูปแบบสเปรย์  เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่เกิดอาการและป้องกันผิวลอกเพิ่มมากขึ้น

1.บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวลอก โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่ายทาลงบนผิวบริเวณที่ไหม้หลังอาบน้ำ ซึ่งครีมบำรุงผิวจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ลดอาการระคายเคือง และฟื้นฟูให้ผิวไหม้แดดหายเร็วขึ้น

2.ประคบผิวด้วยชาดอกคาโมมายล์ นอกจากจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายแล้ว ชาดอกคาโมมายล์ยังมีสรรพคุณช่วยบรรเทาผิวไหม้แดดได้อีกด้วย โดยแช่ผงชาในน้ำร้อนแล้วทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นใช้ผ้าขนหนูสะอาดจุ่มลงในน้ำชา นำผ้านั้นมาประคบผิวบริเวณที่ไหม้ แต่ผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้ไม่ควรรักษาด้วยวิธีนี้ เพราะอาจทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ได้    

3.แช่น้ำเย็น การใช้น้ำเย็นช่วยลดอาการอักเสบจากการสัมผัสแดดเป็นเวลานานได้ โดยอาจลองแช่ตัวในน้ำทะเลขณะพักผ่อนริมชายหาด แช่ตัวในอ่างอาบน้ำ หรือแช่ตัวในสระว่ายน้ำเพื่อบรรเทาอาการผิวไหม้แดด แต่ควรหลีกเลี่ยงสระว่ายน้ำที่มีสารคลอรีน เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดการอักเสบมากกว่าเดิมได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแข็งประคบลงบนผิวบริเวณที่ไหม้แดด เนื่องจากความเย็นของน้ำแข็งจะทำลายผิวจนทำให้ผิวเสียมากขึ้น  

4.แช่ตัวในน้ำที่ผสมสารบำรุงผิว การแช่ตัวในอ่างอาบน้ำที่ผสมด้วยเบกกิ้งโซดา 2-3 ช้อนโต๊ะ หรือข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย เป็นเวลา 15-20 นาที จะช่วยบรรเทาและฟื้นฟูผิวไหม้แดดได้ หลังขึ้นจากน้ำควรซับผิวให้แห้งเบา ๆ ด้วยผ้าขนหนูสะอาด และไม่ควรใช้เบกกิ้งโซดาหรือข้าวโอ๊ตขัดผิวโดยตรง เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบและมีอาการแย่ลงได้ นอกจากนี้ มีงานวิจัยที่พบว่าการเจือจางน้ำส้มสายชูในอ่างอาบน้ำช่วยบรรเทาอาการแสบจากผิวไหม้แดดได้ แต่อีกงานวิจัยหนึ่งกลับระบุว่า น้ำส้มสายชูอาจทำให้อาการผิวไหม้แดดแย่ลงได้เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรด ดังนั้น หากไม่เคยใช้น้ำส้มสายชูกับแผลที่มีขนาดเล็กและไม่รุนแรงมาก่อน ควรหลีกเลี่ยงการรักษาผิวไหม้แดดที่มีขนาดใหญ่และมีความรุนแรงมากด้วยวิธีนี้

1.ดื่มน้ำมาก ๆ ผิวต้องการความชุ่มชื้นเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูตนเอง ดังนั้น ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อให้เพียงพอต่อการทำงานของร่างกายและการฟื้นฟูสภาพผิว นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มบางประเภท เช่น โซดา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำได้

2.สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ขณะที่เซลล์ผิวกำลังซ่อมแซมตัวเองหลังไหม้แดด ควรใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ ที่ไม่รัดติดผิวมากเกินไป เพื่อให้ผิวหนังได้ฟื้นฟูสภาพผิวเต็มที่และไม่เกิดการระคายเคืองจากการเสียดสี ซึ่งวัสดุจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น เส้นใยฝ้ายหรือใยไผ่ จะช่วยป้องกันการระคายเคืองของผิวหนังบริเวณที่ไหม้แดดได้

3.ห้ามเจาะตุ่มน้ำบนผิว ตุ่มน้ำที่เกิดขึ้นจากผิวไหม้แดดจะทำหน้าที่คล้ายพลาสเตอร์ยา โดยจะช่วยป้องกันผิวด้านล่างไม่ให้เกิดการระคายเคือง ดังนั้น ควรปล่อยให้ตุ่มน้ำแตกออกเองตามธรรมชาติ หากผิวหนังที่พองออกนั้นฉีกขาด ให้ใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ทาลงบนผิวบริเวณนั้น 2-3 ครั้ง/วัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น แล้วปิดผิวด้วยพลาสเตอร์ อย่างไรก็ตาม ตุ่มน้ำจากผิวไหม้แดดอาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง ชนิดเมลาโนมา ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดสีเมลานิน ดังนั้น ควรแจ้งให้แพทย์ผิวหนังทราบหากเคยมีตุ่มน้ำพองขึ้นหลังการออกแดด และควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหามะเร็งผิวหนังเป็นประจำทุกปี

4.หลีกเลี่ยงการออกแดดจนกว่าผิวจะหายดี เนื่องจากผิวไหม้แดดจะไวต่อแสง ซึ่งทำให้ผิวบอบบางและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการออกแดกขณะมีผิวไหม้แดด หากจำเป็นต้องออกไปกลางแจ้งควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดเสมอ และสวมใส่เสื้อผ้าที่สามารถป้องกันแสงแดดได้ดี นอกจากนี้ อาจทาผิวด้วยว่านหางจระเข้ 100%  หลังจากออกแดด โดยพิจารณาเลือกใช้แบบสเปรย์เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวโดยตรง  

ทั้งนี้ต้องใจเย็นๆในการรักษาผิว ต้องใช้เวลาในการรักษาถึงจะหายดี ทางที่ดีก่อนออกแดดควรหาหมวก แว่นตากันแดด เสื้อแขนยาว เพื่อป้องกันสัมผัสแดดโดยตรง ก็จะช่วยได้ในระดับนึงด้วยนะคะ

สุดท้ายนี้ การจะมีความสวย ทั้งภายนอก ภายใน ทั้งสุขภาพดี ต้องอย่าลืมหลักประกันชีวิต ที่สามารถเป็นเพื่อนคอยดูแลให้คำตอบและดูแลสุขภาพของท่านได้ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ที่ไม่คาดฝัน ลองโทร.มาปรึกษาเรา ที่ 062-8982549 เรายินดีให้คำปรึกษาตลอดเวลากับ AIA