• อาทิตย์. ก.ย. 8th, 2024

เบรกเกอร์ไฟฟ้าคืออะไร มีกี่ประเภท มีประโยชน์อย่างไร ?

ไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกครัวเรือน แต่การให้ความสำคัญกับการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ในบทความนี้ เราจึงขอพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับเบรกเกอร์ไฟฟ้ากันให้มากขึ้น เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญและประโยชน์ของอุปกรณ์ชิ้นนี้

เบรกเกอร์ไฟฟ้าคืออะไร ?

เบรกเกอร์ไฟฟ้า (Circuit Breaker) เป็นอุปกรณ์ตัดวงจรไฟฟ้าอัตโนมัติที่ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้าเกินหรือไฟฟ้าลัดวงจร โดยจะตัดกระแสไฟฟ้าทันทีเมื่อตรวจพบความผิดปกติในระบบไฟฟ้า เช่น กระแสไฟฟ้าเกินพิกัด หรือเกิดการลัดวงจร

เบรกเกอร์ทำงานโดยอาศัยหลักการทางแม่เหล็กไฟฟ้าและความร้อน เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเกินกว่าค่าที่กำหนด จะเกิดสนามแม่เหล็กหรือความร้อนที่มากพอจะทำให้กลไกภายในเบรกเกอร์ทำงาน ตัดวงจรไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ

เบรกเกอร์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท ?

เบรกเกอร์ไฟฟ้าสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและการทำงาน ดังนี้

  1. เบรกเกอร์แบบแม่เหล็ก (Magnetic Circuit Breaker) 
  • ทำงานโดยอาศัยหลักการทางแม่เหล็กไฟฟ้า
  • ตัดวงจรอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดกระแสไฟฟ้าเกินหรือลัดวงจร
  • เหมาะสำหรับการป้องกันมอเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่
  1. เบรกเกอร์แบบความร้อน (Thermal Circuit Breaker) 
  • ทำงานโดยอาศัยการขยายตัวของโลหะเมื่อร้อน
  • ตัดวงจรเมื่อมีกระแสไฟฟ้าเกินพิกัดเป็นเวลานาน
  • เหมาะสำหรับการป้องกันวงจรไฟฟ้าทั่วไปในบ้านและอาคาร
  1. เบรกเกอร์แบบผสม (Magnetic-Thermal Circuit Breaker) 
  • ผสมผสานการทำงานของเบรกเกอร์แบบแม่เหล็กและแบบความร้อน
  • ให้การป้องกันที่ครอบคลุมทั้งกระแสไฟฟ้าเกินและการลัดวงจร
  • เป็นประเภทที่นิยมใช้มากที่สุดในปัจจุบัน
  1. เบรกเกอร์กันไฟรั่ว (Residual Current Circuit Breaker – RCCB) 
  • ตรวจจับกระแสไฟฟ้ารั่วไหลลงดิน
  • ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูดและไฟไหม้
  • เหมาะสำหรับพื้นที่เสี่ยง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว
  1. เบรกเกอร์ตัดวงจรอาร์ก (Arc Fault Circuit Interrupter – AFCI) 
  • ตรวจจับการเกิดประกายไฟในวงจรไฟฟ้า
  • ป้องกันการเกิดไฟไหม้จากการอาร์กของไฟฟ้า
  • นิยมใช้ในประเทศที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง

เบรกเกอร์ไฟฟ้ามีประโยชน์อย่างไร ?

เบรกเกอร์ไฟฟ้ามีประโยชน์หลายประการ ดังนี้

  • ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจร
  • ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากกระแสไฟฟ้าเกิน:
  • ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากกระแสไฟฟ้าที่มากเกินไป
  • เพิ่มความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้าดูด หรือไฟไหม้
  • สะดวกในการควบคุมและซ่อมบำรุง

การใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายและไม่เป็นอันตรายอีกด้วย เบรกเกอร์ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและอาคาร การเลือกใช้เบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและการติดตั้งอย่างถูกต้องจะช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม การมีเบรกเกอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ผู้ใช้ไฟฟ้าควรตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัย มีการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างถูกวิธี เพื่อให้การใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

เรื่องที่คุณห้ามพลาด!