โรคนิ่วในแมวเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย ซึ่งสร้างความทุกข์ทรมานให้กับน้องแมว และอาจส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพโดยรวมได้ หากให้อาหารไม่ถูกสุขอนามัย ดังนั้น เมื่อน้องป่วย เราจึงต้องปรับเปลี่ยนมื้ออาหารของน้อง มาเป็นการให้อาหารรักษาโรคนิ่วแมวที่มีคุณภาพดี อันจะช่วยป้องกันและรักษาโรคนิ่วได้อย่างมีประสิทธิภาพแทน
ในบทความนี้ เราจะมาบอกวิธีเลือกอาหารรักษาโรคนิ่วสำหรับแมวให้คุ้มค่า ช่วยเซฟสุขภาพของน้อง ๆ ให้อยู่กับเราได้อีกนาน ๆ
แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น เรามาทำความเข้าใจโรคนิ่วในน้องแมวให้มากขึ้นกัน !
สาเหตุของโรคนิ่วในแมว
โรคนิ่วในแมว เกิดจากการตกตะกอนของแร่ธาตุในปัสสาวะจนก่อตัวเป็นก้อนแข็ง โดยสาเหตุหลัก ๆ มาจาก
- พันธุกรรม – หากพ่อพันธุ์หรือแม่พันธุ์ของน้องมีประวัติการเป็นโรคนิ่วมาก่อน น้องแมวก็มีสิทธิ์จะเป็นตามสูงมาก
- อาหาร – การให้อาหารน้องแมวก็สามารถทำให้เกิดโรคได้เช่นกัน โดยอาหารที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนิ่วในแมว เช่น อาหารที่มีแคลเซียมสูง อาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง อาหารที่มีกรดยูริกสูง เป็นต้น
- น้ำหนักตัว – แมวที่มีน้ำหนักเกิน มักมีโอกาสเป็นโรคนิ่วมากกว่าแมวที่มีน้ำหนักปกติ เพราะมีไขมันสะสมในร่างกายสูง และเผาผลาญช้า
- เพศ – แมวเพศผู้มีโอกาสเป็นโรคนิ่วมากกว่าแมวเพศเมีย เพราะเพศผู้มีท่อปัสสาวะเล็กแคบและยาวกว่า
- พฤติกรรมการดื่มน้ำ – แมวที่ดื่มน้ำน้อย มีโอกาสเป็นโรคนิ่วมากกว่าแมวที่ดื่มน้ำมาก
โรคนิ่วในแมวมีกี่ประเภท
โรคนิ่วในแมวสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- โรคนิ่วสตรูไวท์ (Struvite) เป็นประเภทของนิ่วที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดในแมวอายุ 4-7 ปี
- โรคนิ่วแคลเซียมออกซาเลต (Calcium Oxalate) พบได้น้อยกว่า มักเกิดในแมวเพศผู้อายุ 7 ปีขึ้นไป
อาการของโรคนิ่วในแมว
- ปัสสาวะขัด
- ปัสสาวะบ่อย
- ร้องเสียงแหลมเวลาปัสสาวะ
- มีเลือดปนในปัสสาวะ
- อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- ซึม
วิธีเลือกอาหารรักษาโรคนิ่วแมว
เมื่อน้องแมวเป็นโรคนิ่ว สิ่งสำคัญคือการให้อาหารที่เหมาะแก่การรักษาโรค ไม่เลี้ยงน้องด้วยอาหารแบบเดิม ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคนิ่ว โดยอาหารรักษาโรคนิ่วแมวที่มีคุณภาพ จะช่วยละลายนิ่ว ป้องกันการเกิดนิ่วใหม่ ควบคุมค่า pH ของปัสสาวะ และเพิ่มการดื่มน้ำให้น้องแมวได้
วิธีเลือกอาหารรักษาโรคนิ่วแมวให้คุ้มค่าและได้คุณภาพ มีดังนี้
- เลือกอาหารที่มีส่วนผสมที่ช่วยละลายนิ่ว เช่น โซเดียมซิเตรต โพแทสเซียมซิเตรต
- เลือกอาหารที่มีส่วนผสมที่ช่วยควบคุมค่า pH ของปัสสาวะ เช่น กรด DL-เมธิโอนีน
- เลือกอาหารที่มีเกลือแร่ต่ำ
- เลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง
- เลือกอาหารที่มีน้ำมาก
- เลือกอาหารที่มีรสชาติที่แมวชอบ
- ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเลือกสูตรอาหารที่เหมาะสมกับชนิดของนิ่วและสุขภาพโดยรวมของแมว
ตัวอย่างอาหารรักษาโรคนิ่วแมว
- Royal Canin Urinary S/O
- Hill’s Prescription Diet c/d Multicare Feline Urinary Care
- Purina Pro Plan UR Urinary Tract Health Formula
การเลือกอาหารรักษาโรคนิ่วแมวที่เหมาะสม ร่วมกับการดูแลอย่างใกล้ชิด จะช่วยให้น้องแมวกลับมามีสุขภาพที่ดีและปราศจากโรคนิ่วได้ ทั้งนี้ ต้องให้แมวกินอาหารตามปริมาณที่ระบุบนฉลาก ไม่มากไม่น้อยเกินไป และควรกินอาหารสูตรเฉพาะอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ กระตุ้นให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ รวมถึงพาแมวไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำด้วย