กาฬสินธุ์ วอนช่วยเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแสตัวถ่วงความเจริญ ทำลายสัญญาณไฟกระพริบโซลาเซลล์เตือนทางแยก ของข้าราชการครูบำนาญ อุตส่าห์ตั้งใจเก็บหอมรอมริบจากเงินออมเดือนละ 500-1,000 บาท จนได้เงินหมื่น เสียสละควักเงินตัวเองซื้ออุปกรณ์มาติดตั้งช่วยเหลือสังคม กลับถูกมือดีทำลายเสียหายถึง 2 จุด คาดเป็นคนในพื้นที่
อาจารย์สุระเดช ยานสุวรรณ์ ข้าราชการครูบำนาญ รักษาการหัวหน้ากลุ่มพัฒนาบ้านกุดอ้อ จิตอาสาพัฒนาบ้านสุขสวัสดิ์ กรรมการพัฒนาเทศบาลตำบลหลุบ กล่าวว่า ตนเองเล็งเห็นว่าพื้นที่ตำบลหลุบเส้นถนนตัดใหม่ (กาฬสินธุ์-มุกดาหาร) เส้นบ้านโคกกลาง หมู่ 3 และบ้านสุขสวัสดิ์ หมู่ 14 ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เป็นเขตที่อันตราย ทีนี้ก็เลยเก็บเล็กผสมน้อย แล้วก็ขออนุญาตแขวงทางหลวงจังหวัดกาฬสินธุ์ถูกต้อง ผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน จึงได้นำไฟกระพริบจราจร (สีเหลือง) พร้อมเสา จำนวน 4 ชุด ติดตั้งริมถนนทางหลวง หมายเลข 12 แบบโซล่าเซลล์ ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็เทียวไปเทียวมาดูอยู่เรื่อย ๆ เพราะ 2 คืนที่ผ่านมามีฝนตกตลอด พอมาดูตอนเช้าของเมื่อวานนี้ (16 ก.ค. 2567) ก็พบลักษณะนี้ ถูกทำลายไป จำนวน 2 จุด ตามที่เห็น
อ.สุระเดช กล่าวอีกว่า คาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ตำบลหลุบ จึงได้แจ้งข้อมูลเบื้องต้นในกลุ่มไลน์หมู่บ้านสุขสวัสดิ์ที่มีผู้นำชุมชนอยู่ในกลุ่ม ยังคิดว่าเป็นประเด็นที่ตนเองทำประโยชน์เพื่อสังคมมาโดยตลอด ยังมีคนคิดมาทำแบบนี้ถ่วงความเจริญแบบนี้ จึงฝากไปยังผู้มาคิดทำแบบนี้ให้กลับไปคิดใหม่ นี่เอาเงินที่เก็บเล็กผสมน้อยที่ตนเองชอบทำงานช่วยเหลือสังคม สร้างความปลอดภัยแก่ประชาชน ชุมชน สังคมให้ดีขึ้น เพราะฉะนั้นก็อยากให้คิดสักนิดว่าอย่าได้ทำอีก ส่วนเรื่องจะสาปแช่งคนที่ทำไป ก็ไม่อยากสาปแช่ง เพราะตนเป็นคนธรรมะธรรมโม เข้าวัดประจำ ทำประโยชน์ตลอด ก็อยากให้หยุดทำลักษณะนี้ จะเป็นผลดีกับสังคม กับบ้านกับเมืองเรา ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามว่ากลุ่มหรือคนที่คิดไม่ดีลักษณะนี้ มาทำแบบนี้เพราะอะไร
อ.สุระเดช กล่าวต่ออีกว่า ถ้าเกิดแบบนี้มันก็ทำให้รู้สึกท้อแต่ก็ไม่ถอย สิ่งที่หยิบยื่นแบ่งปันตังค์เล็กๆ น้อยๆ ในกระเป๋ามาทำมันจะเป็นสิ่งที่ยังคงอยู่ มันไม่สลายไป มันยังเหลืออยู่ อยากให้ลูกหลานเห็นว่าเราทำความดีไปตลอดมันก็น่าจะได้รับผลดี เป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกหลาน ไม่ถอยแต่อาจจะท้อบ้าง
อย่างไรก็ตามถ้าหากเป็นหัวขโมยหรือพวกที่ชอบลักเล็กขโมยน้อย ก็น่าจะถอดเอาสัญญาไฟไปขาย ไม่น่าจะทุบทำลายทิ้งแบบนี้ แล้วของทางหลวงที่ติดตั้งไว้ข้างๆ กันก็ไม่เป็นไร เหมือนจงใจตั้งใจมาทำลายเฉพาะของ อ.สุระเดชที่ติดตั้งใหม่ ต้องเป็นประเด็นน่าสงสัยสักอย่าง แล้วตัวที่ติดตั้งไว้หน้าแยกร้านอาหารกลับไม่ถูกทำลาย เพราะอาจจะเห็นว่าหน้าร้านอาหารมีกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้อยู่
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com