“เบิดคำสิเว้า” (ภาษาอีสานแปลว่า หมดคำพูด) แตกร้าวทุกซอกทุกมุม บ้านหรู๋ (ภาษาอีสานแปลว่าบ้านรั่ว บ้านทะลุ) เจ้าของร้านเวดดิ้งสตูดิโอชื่อดังของจังหวัดกาฬสินธุ์ ร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน หวังเป็นหนทางให้ช่วยตีแผ่เรื่องนี้เตือนภัยสังคม ใช้เงินเก็บทั้งชีวิตกว่า 3 ล้าน จ้างผู้รับเหมาสร้างบ้านแต่ไม่ได้บ้าน สุดท้ายถูกศาลประกาศยึดทรัพย์ ยังพบวิศวกรถูกพักใบอนุญาตและมีประวัติไม่ดีเรื่องอย่างนี้มาแล้ว
นายแสงจันทร์ เจ้าของบ้านวัย 39 ปี เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ผมอยากให้สื่อฯ ช่วยตีแผ่ว่าผมเป็นผู้เสียหาย แต่วันนี้ผมอยู่ในจุดที่ตกเป็นจำเลยต้องเข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรม ถามว่าผมเคารพศาลไหม ผมเคารพ แต่หมายถึงว่าผมอยากให้สังคมเห็นว่าที่ผมเจอแบบนี้มันยุติธรรมสำหรับผมไหม กับสภาพบ้านที่เห็นอยู่นี้ กับการที่ต้องไปจ่ายเงินให้เขาที่เป็นผู้รับเหมา ทั้งยังโดนข่มขู่ว่าให้ระวังตัวนะ ให้เช็คประวัติวงศ์ตระกูลเขานะ เขาต่อว่าผมในโลกโซเชียล ผมว่ามันไม่ยุติธรรม แล้ววันนี้บ้านหลังนี้ก็เข้าไปสู่กระบวนการถูกยึดทรัพย์ตามคำสั่งศาล ซึ่งมันเลวร้ายกับคนที่ฝันว่าอยากมีบ้าน ทำมาหากินโดยสุจริต จะมาทำบ้านเพื่อประกอบอาชีพ แต่มาถูกผู้รับเหมาหรือวิศวกรมาทำแบบนี้ ซึ่งเคสของผมไม่ใช่เคสแรกที่เขาทำ แต่ผมก็ยังโดนแบบอย่างนี้อยู่ ผมอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เห็นใจ ให้ช่วยลงมาดูหน่อย ว่าสิ่งที่ผมเป็นประชาชนคนหนึ่งต้องโดนแบบอย่างนี้ ต้องตกเป็นจำเลย ต้องไปขึ้นศาล ต้องถูกยึดทรัพย์ การยึดทรัพย์หลายคนอาจจะสงสัยว่าเราไม่ผิดทำไม่ต้องถูกยึดทรัพย์ ผมเป็นประชาชนทั่วไปไม่รู้เรื่องข้อกฎหมาย การที่เราเดินไปหาทนายหรือบุคคลต่างๆ ที่มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราหวังจะอาศัยเขาตามวิชาชีพนั้นๆ ที่จะมาช่วยเหลือเรา กลายเป็นว่าผลมันออกมาแบบนี้ นี่คือเหตุผลที่ทำไมผมต้องออกมาขอให้สื่อมวลชนช่วยเหลือ ในการตีแผ่เรื่องนี้ เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีกำลังความสามารถที่พอจะมาช่วยเหลือผมตรงนี้ เพื่อจัดการกับบุคคลกลุ่มนี้ สังคมไทยอาจจะมองเห็นว่าเรื่องกรณีผู้รับเหมาสร้างบ้านทิ้งงานมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่กรณีของผมมันซับซ้อนกว่านั้นมาก จึงอยากให้ทุกคนลองดูข้อมูลลึกๆ ว่ามันจริงอย่างที่ผมพูดไหม ผมกล้าสาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นความจริงทั้งหมด สิ่งที่ผมโดนหลักฐานเชิงประจักษ์ทุกอย่างผมมีหมด แต่เราอาจจะตัวเล็ก แต่ถ้าหลายๆ คนรวมกัน สังคมรวมกันได้ มันจะทำให้คนไม่ดีหายไปจากสังคมและสังคมของเราจะน่าอยู่ขึ้น จะได้ไม่มีคนมาตกเป็นเหยื่อแบบนี้อีก
“เจ้าของบ้านต้องรับชะตากรรมเอง ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ ตามความสามารถที่มี จะให้เราไปเจาะเหล็กเองแล้วไปจ้างคนมาแก้ไขเราก็ไม่มีเงินไม่มีกำลังแล้ว ไหนจะต้องไปสู้คดีกับสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ผมเป็นเจ้าของบ้าน เป็นเจ้าทุกข์ ไม่ได้เป็นคนที่เอาเปรียบเขา มันค่อนข้างเลวร้ายกับผมอย่างมาก” นายแสงจันทร์กล่าวต่อ
นายแสงจันทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินก้อนนี้เป็นเงินที่เก็บมาและกู้ยืมเงินมาเพื่อสร้างบ้าน กว่าจะสะสมเงินมาได้ กว่าจะสร้างเครดิตจนธนาคารอนุมัติเงินมาได้ กว่าจะซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง ผมเริ่มจากศูนย์ ทำมาหากินสุจริต ผมมีภาระต้องดูแลครอบครัว ดูแลหลาน ดูแลคุณแม่ ผมเป็นเสาหลักเพราะคุณพ่อเสียแล้ว ผมกลับต้องมาโดนทำแบบนี้ แล้วเงินเก็บทุกบาทที่ผมมีผมต้องเอามาแก้ไขบ้านจากที่เขาทำทิ้งไว้ เพราะอยากให้บ้านไปต่อให้ได้ ผมโดนทั้งขึ้นทั้งร่อง เงินเก็บไว้ยามจำเป็นก็ต้องเอาไปจ่าย บ้านก็เป็นสภาพตามที่เห็น โดนคดีตกเป็นจำเลย สุดท้ายแล้วทางตันบ้านถูกยึดไปอยู่ในบังคับคดี เหมือนกับผมไปเป็นหนี้คนอื่น ไปทำร้ายคนอื่น ซึ่งมันไม่ใช่ ผมอยากขอความเห็นใจ อยากให้หน่วยงาน หรือพี่ๆ สื่อมวลชนช่วยเหลือในการจัดการกับบุคคลนี้ไม่ให้เขามาทำแบบนี้กับผมอีก ผมเดือดร้อนมากๆ ขอความเห็นใจด้วย