กาฬสินธุ์ เช้าวันนี้ (2 ก.ย. 2567) แรม 14 ค่ำ เดือน 9 ขอเชิญพุทธศาสนิกชนจากบ้านกุดอ้อ หมู่ที่ 2, บ้านสุขสวัสดิ์ หมู่ที่ 14 ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างพากันตื่นแต่เช้าจัดเตรียมข้าวปลาอาหาร แต่งกายด้วยชุดขาว มุ่งหน้าเข้าวัดร่วมทำบุญข้าวประดับดิน ณ วัดกุดอ้อ ต.หลุบ โดยช่วงเช้ามีพิธีทำบุญตักบาตร บังสุกุลรวมญาติเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้บรรพบุรุษและผู้ล่วงลับ โดยชาวบ้านจะนำห่อข้าวน้อยที่เตรียมมาวางไว้ที่โต๊ะที่ทางวัดเตรียมไว้ จากนั้นนายภักดี ภูมีแหลม กำนันตำบลหลุบ ได้เป็นตัวแทนฯ จุดธูป เทียน บูชาพระรัตนตรัย นำกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย/สมาทานศีล 5 และศีล 5 ต่อจากนั้นพระสงฆ์ให้ศีล/รับศีล/อาราธนาพาหุง
จากนั้น พระสงฆ์ทั้ง 7 รูป ได้เจริญพระพุทธมนต์ บทถวายพรพระ เริ่มพิธีตักบาตร/ถวายภัตตาหาร/สวดห่อข้าวน้อย ต่อจากนั้นพระสงฆ์พิจารณาบังสุกุล กล่าวสัมโมทนียกถา/พระสงฆ์ อนุโมทนา/กรวดน้ำ รับพร จากนั้นทางญาติก็ได้นำห่อข้าวน้อยไปวางตามอัฐิธาตุ เป็นเสร็จพิธี
พระครูสุตรัตนานุกูล เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าอาวาสวัดกุดอ้อ เมตตากล่าวเล่าถึงมูลเหตุที่ทำให้เกิดบุญข้าวประดับดินว่า ครั้งสมัยพุทธกาล มีญาติของพระเจ้าพิมพิสารยักยอกทรัพย์ของสงฆ์ ขโมยสิ่งของต่างๆ และขโมยกินอาหารก่อนพระสงฆ์ ตายไปแล้วจึงเกิดเป็นเปรต มีความทุกทรมานอย่างหนัก เมื่อพระเจ้าพิมพิสารไปถวายทานแด่พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์แล้ว มิได้อุทิศส่วนกุศลไปให้ใคร
ถึงเวลากลางคืนจึงพากันมาส่งเสียงรบกวนเพื่อขอส่วนบุญ พระเจ้าพิมพิสารจึงไปทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงแจ้งเหตุให้ทราบ เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงทราบ จึงจัดถวายสังฆทานแล้วอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้ญาติพี่น้อง จึงทำให้เกิดเป็นประเพณีบุญข้าวประดับดินขึ้น
พิธีทำบุญข้าวประดับดิน ในวันแรม 13 ค่ำ เดือน 9 ญาติโยมนิยมถวายทาน รักษาศีล ฟังเทศน์ และมีการเตรียมอาหารคาวหวาน หมากพลู บุหรี่ โดยห่อด้วยใบตองหรือใส่กระทง รุ่งเช้าในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 เวลาช่วงเช้า ก็จะนำห่อข้าวหรือกระทงที่เตรียมไว้ไปวาง หรือแขวนในบริเวณวัด ในการวางสิ่งของเพื่ออุทิศให้เปรตหรือญาติมิตรที่ล่วงลับไปแล้วดังกล่าว บางท้องถิ่นอาจทำก่อนถวายทานก็มี เป็นเสร็จพิธีทำบุญข้าวประดับดิน
ประเพณีบุญข้าวประดับดินบุญเดือน 9 เป็นอีกหนึ่งประเพณีที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน จัดขึ้นในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี การทำบุญข้าวประดับดิน ชาวบ้านจะนำข้าวปลา อาหารคาวหวาน ผลไม้ หมาก พลู บุหรี่ มาห่อด้วยใบตอง และทำเป็นห่อเล็กๆ ก่อนจะนำไปวางตามโคนต้นไม้ใหญ่ หรือตามพื้นดินบริเวณรอบๆ บริเวณกำแพงวัด
มีความเชื่อกันว่า การทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว รวมถึงให้ทานแก่สัตว์นรก เปรต และสัมภเวสี วิญญาณเร่ร่อนไร้ญาติ โดยจะนำอาหาร ไปวางกองไว้ที่พื้น เพื่อให้วิญญาณเหล่านั้น สามารถเข้าไปกินอาหารได้ ถือเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมของชาวอีสาน ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนาน และเป็นความเชื่อว่า หากนำอาหารให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ญาติก็จะไม่อดอยาก ซึ่งจะส่งผลดีถึงคนในครอบครัวอีกด้วย
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com