สำนักงานสภาเกษตรกรฯกาฬสินธุ์ แนะนำเกษตรกรพัฒนาสินค้าให้เป็น Soft Power เชื่อมโยงตลาดในหลากหลายมิติ เป็นทางรอดของเกษตรกรไทยในยุคที่มีการแข่งขันสูง ขณะที่การลดการก่อหนี้เพิ่ม เป็นการลดความเสี่ยงที่สำคัญของการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
กาฬสินธุ์ ที่โรงแรมชาร์-ลอง บูทริค อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ดร.นิรุจน์ อุทธา หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับเชิญจาก สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ บรรยายพิเศษเรื่อง “การออกแบบและการจัดทำแผนการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงการตลาดในการสร้างรายได้จากกิจการอาหารปลอดภัย” กลุ่มเป้าหมาย คือ เกษตรกรเจ้าของโคกหนองนาต้นแบบจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 10 อำเภอๆละ 2 คน รวม 20 คน วัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรสร้างผลผลิตอาหารปลอดภัยจากโคกหนองนาต้นแบบ สามารถจำหน่ายและสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ดร.นิรุจน์ อุทธา หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้บรรยายและให้คำแนะนำเกษตรกรโคกหนองนาต้นแบบจังหวัดกาฬสินธุ์ ว่า สิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดเกี่ยวกับการผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ คือการวิจัยสินค้าของตนเองว่าสามารถเป็น Soft Power Products ที่มีลักษณะโดดเด่น เป็นอัตลักษณ์ แตกต่างจากคนอื่นแล้วหรือยัง การสร้างแบรนด์ ที่มีเรื่องเล่าที่งดงาม ตื่นเต้น เร้าใจ ให้ความสำคัญกับการฝึกและพัฒนาตนเองด้านการประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆมากขึ้น ลงทุนด้านการสื่อสารเพิ่มขึ้น สามารถเชื่อมโยงการขายสินค้าการเกษตรในหลากหลายมิติ อาทิ การท่องเที่ยว ของฝากที่ระลึก ของขวัญปีใหม่ อาหารว่าง อาหารกลางวันเด็ก บริการแพทย์แผนไทย เครื่องดื่ม ผ้าไหม ผ้าไทย ผลิตภัณฑ์อัดกระป๋อง ฯลฯ หาโอกาสร่วมงานแสดงสินค้า ออกบู๊ธ ในงานเทศกาลอาหาร สินค้า ทั้งในระดับชุมชน ตำบล อำเภอ จังหวัด หรืองานแสดงสินค้าระดับประเทศ เพื่อแสวงหานักธุรกิจในเชิงพาณิชย์ อีกทั้งได้แนะนำให้ระมัดระวังในการก่อหนี้มากขึ้น เพราะเป็นความเสี่ยง ที่ผ่านมาเกษตรกรยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้ ยิ่งยากจน ควรทำกิจการสร้างรายได้จากเล็กไปหาใหญ่ ไม่ใช่ทำจากใหญ่ไปหาเล็ก เพราะโคกหนองนาคือความหวัง เป็นเกษตรกรผู้มาก่อนกาล ที่จะสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างแท้จริง ดร.นิรุจน์กล่าว
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com