กาฬสินธุ์ ภาคเอกชนจับมือเหนียวแน่น เดินหน้าขอความร่วมมือและหารือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องร่วมมือพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ทุกมิติ ทั้งด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว เกษตรอินทรีย์ โดยเฉพาะผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ หากมีการจัดโซนผังเมืองใหม่ให้สามารถดึงดูดนักธุรกิจมาลงทุนได้ ก็จะสร้างเม็ดเงินและสร้างงานในจังหวัดกาฬสินธุ์ได้อย่างมหาศาล โดยผู้ว่าฯ คนใหม่ นายสนั่น พงษ์อักษร พร้อมให้ความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนกาฬสินธุ์ได้หลุดพ้นจากความอย่างจนอย่างยั่งยืน
(18 ต.ค. 2566) ที่ห้องประชุมฟ้าแดดสงยาง ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 2 นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์คนใหม่ คนที่ 57 ร่วมปรึกษาหารือกับส่วนราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้แทนองค์กรภาคเอกชน ภาคธุรกิจ ที่ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ผ่านเวทีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือ กรอ. ครั้งที่ 1/2567 (นัดพิเศษ) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนคนกาฬสินธุ์ สร้างความสุข สร้างรอยยิ้มให้คนจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อจัดทำ Project เพื่อเตรียมโครงการนำข้อ กรอ.กลุ่มจังหวัด โดยมีนายสำเริง ม่วงสังข์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์, นายธนภัทร ณ ระนอง ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยภาคเอกชน ประกอบด้วย น.ส.ชนิดา ตั้งเทวนนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์, นางพิไรรัตน์ บริหาร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์, ดร.วัชรพงศ์ ชาวสามทอง นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์, นายฉัตร์ชัยย์ วิรุฬห์วรวุฒิ ประธานหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ องค์กรภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ประธานในที่ประชุมกล่าวว่า การพบปะ ปรึกษา หารือในครั้งนี้ ภาคราชการมีแนวทางการทำงานคือ เต็มที่ ใส่ใจ และร่วมแรงร่วมใจ การประชุมครั้งนี้อยากฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ด้านการท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันหาแนวทางขับเคลื่อนพัฒนาจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว การเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ตลอดจนแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่มีอยู่ให้ดีขึ้น สร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม การพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ของเราต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ภาคเอกชน จับมือกันเดินไปด้วยกัน ซึ่งภาคเอกชนได้เสนอแนวคิดที่หลากหลาย ได้แก่ การยกระดับสินค้าด้วยมาตรฐานการผลิต การผลักดันเส้นทางการท่องเที่ยว การจัดทำผังเมืองรองรับการเติบโต การสร้างมูลค่าสินค้าเกษตร เช่น กุ้งขุน ขนาดใหญ่ เป็นต้น
ด้านนายฉัตร์ชัยย์ วิรุฬห์วรวุฒิ ประธานหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์มีภารกิจที่หลากหลายในการร่วมขับเคลื่อนพัฒนาจังหวัด อย่างเช่นช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ทางหอการค้าฯ ก็ได้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรออกมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลายจุด เช่นที่ตำบลดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด และยังมีแผนจะผลักดันโครงการ 1 ไร่ 1 ล้าน , 1 ชุมชน 1 โรงเรือนปลอดผักสาร, 1 ชุมชน 1 ผู้นำเกษตรปลอดสารอาหารปลอดภัย เป็นต้น
ดร.วัชรพงศ์ ชาวสามทอง นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เสนอให้จังหวัดกาฬสินธุ์เป็นสถานที่จัดงานประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2566 ของสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยวส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 21 – 23 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงแรมริมปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยได้เรียนเชิญ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวกีฬา เป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถา พร้อมด้วย น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมชมบูธกิจการของดีของเด่นประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ และสินค้า 5 ภูมิภาคจากผู้ประกอบการสมาชิกสมาพันธ์ฯ ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัด เนื่องจากในงานประชุมดังกล่าว มีสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวกว่า 500 คนจากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม และได้มีการจัดเส้นทางการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาฬสินธุ์และใกล้เคียง จึงขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพในการต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมและผู้ร่วมงาน และหากท่านใดสนใจเข้าร่วมสนับสนุนการจัดงาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณขนิษฐา จันนุวงศ์ โทร. 089 417 4449
นายกฯท่องเที่ยว กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางสมาคมฯ ยังมีแนวคิดการยกระดับรายได้ของเกษตรกรและผลผลิตทางการเกษตร ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ผ่านการแปรรูปเป็นอาหารตามแนวทางรัฐบาลให้เป็น SOFT POWER แบบบูรณาการร่วมกัน จากผลผลิตของวิสาหกิจชุมชน ที่รวมตัวสามารถช่วยเหลือตนเองได้
น.ส.ชนิดา ตั้งเทวนนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ของเรามีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวยงามเป็นจำนวนมาก อย่างเช่นเขื่อนลำปาว แลนด์มาร์คยอดนิยมของนักท่องเที่ยว จึงอยากให้มีการตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมาพัฒนาการท่องเที่ยวทางน้ำแถวริมเขื่อน มาวิเคราะห์ปัญหาด้านข้อกฎหมายต่าง ๆ และหาทางขับเคลื่อนการท่องเที่ยวตรงนี้ให้ได้ ให้สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำที่มีความปลอดภัย โดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการ และชุมชน ไม่ให้เกิดความขัดแย้งปัญหาเรื่องผลประโยชน์และรายได้ต่อไป
นางพิไรรัตน์ บริหาร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องผังเมือง เพราะผังเมืองของจังหวัดกาฬสินธุ์ยังมีปัญหาของภาคอุตสาหกรรมอยู่ ที่ไม่สามารถสร้างโรงงานขนาดใหญ่ หรืออาคารสูงได้ เพราะหลังจากมีการประกาศผังเมืองรวมจังหวัดปี 60 และผังเมืองรวมใหม่ ก็จะทำให้เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ก็จะอยู่เดิม ๆ แบบนั้น ส่วนในเรื่องการค้าการลงทุนในถนนสาย East – West Economic Corridor: EWEC ซึ่งถนนเส้น EWEC นี้ถือเป็นโอกาสของคนกาฬสินธุ์ที่จะทำให้เราค้าขายไปต่างชาติต่างแดนได้ จะเห็นได้ว่าอย่างมุกดาหาร บึงกาฬ เขาจะมีเรื่องการค้าชายแดนเป็นหัวใจหลักในการค้าขาย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดตนเอง ส่วนกาฬสินธุ์เราก็มีโอกาสเพราะเราจะมีทางเชื่อมไปหาจังหวัดเหล่านี้ แต่สิ่งหนึ่งที่จังหวัดกาฬสินธุ์ไม่มีคือผู้ประกอบการ SMe เล็ก นั่นก็คือมาตรฐาน เราจะเห็นว่าเวลาเราออกตลาดหลาย ๆ ตลาด มาตรฐานของกาฬสินธุ์ยังน้อยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานของอาหาร มาตรฐานผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ดังนั้น ภาคเอกชนมองเห็นว่ากาฬสินธุ์มีความมั่นคงทางอาหารเยอะ เกษตรกรเยอะ เราจึงจะทำเรื่องเกษตรมูลค่าสูงและอาหารปลอดภัย คือปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำ การปลูก การผลิต ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้ต้องมีก่อน เพราะผู้บริโภคจะไม่ซื้อเลยถ้าไม่เห็นมาตรฐาน เพราะเป็นห่วงสุขภาพของตนเอง โดยเฉพาะมาตรฐานอย่างหนึ่งที่อยากให้รู้คือ มาตรฐานอาหารฮาลาล (Halal Food) ถ้าผู้ประกอบการในจังหวัดกาฬสินธุ์ผ่านมาตรฐานเหล่านี้ก็จะทำให้สร้างงาน สร้างรายได้ ให้จังหวัดกาฬสินธุ์ได้อย่างมหาศาลแน่นอน
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com