น้องชายทาสยาบ้า เกิดอาการประสาทหลอน คิดว่าพ่อแม่รักพี่ชายมากกว่าตนเอง ใช้เก้าอีกไม้เตี้ยทุบหัว ราวบันไดฝังตะปูทุบซ้ำกว่า 10 แผล รุ่งเช้ากลัวความผิดลากศพไปฝังกลบข้างข้างเถียงนา 10 เมตร ญาติตามหา พบร่องรอยฝังศพ เผยแค้นฝังใจคิดว่าพี่ชายจะแย่งมรดกไปจากตัวเอง ต้องฆ่าให้ตายแผ่นดินจะสูงขึ้น
(2 ม.ค. 2565) พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย พิมพ์แก้ว ผกก.สภ.นามน ได้รับแจ้งจาก นายเดือน ปัสสาสัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านทรัพย์เจริญ ต.หลักเหลี่ยม อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ว่ามีคนหายไปตัวไปจากกระท่อม ห่างจากหมู่บ้านทรัพย์เจริญ ประมาณ 100 เมตร ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาร่วมตรวจสอบเนื่องจากพบร่องรอยการต่อสู้ และมีผู้ต้องสงสัยอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบร่องรอยและคราบเลือดผู้สูญหาย จึงตรวจสอบรอบๆที่เกิดเกิดเหตุ พบร่องรอยการลากสิ่งของไปยังจุดต้องสงสัยบริเวณร่องน้ำ ซึ่งมีกองดินทรายถูกนำมาฝังกลบอะไรบางอย่าง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขุดดินทรายออก พบศพคนตายคือ นายบุญมี นามนาเมือง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 10 บ้านทรัพย์เจริญ หมู่ 10 ต.หลักเหลี่ยม อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ สภาพถูกฝังอยู่ใต้ดินในร่องน้ำ ที่บริเวณศีรษะ และใบหน้า มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็ง จำนวน 10 กว่าแผล ค่าว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15 ชั่วโมง จึงส่งศพไปให้สถาบันนิติเวช รพ.ขอนแก่นชันสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริง
ซึ่งภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบ พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย พิมพ์แก้ว ผกก.สภ.นามน ได้รายงานให้ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ รับทราบ พร้อมกับสั่งการให้ พ.ต.อ.อำนาจ หาญชนะ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่เพื่อคลี่คลายคดี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายไพศาล นามนาเมือง อายุ 37 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายแท้ๆของผู้ตายไปสอบสวน
เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับข้อมูลมาว่า นายไพศาล มีพฤติกรรม เสพยาเสพติด จนหลอนทางจิตประสาท และเคยมีปัญหากับผู้ตาย และบิดา-มารดา อยู่เป็นประจำ จึงนำตัวไปสอบสวนเค้นหาความจริง กระทั่งยอมรับสารภาพว่าตนเป็นคนลงมือฆ่าพี่ชายแท้ๆของตนเอง เนื่องจากคิดว่าผู้ตาย จะได้มรดกจากบิดา-มารดาไปมากกว่าตน ประกอบกับอาการทางจิตประสาทที่เสพยาบ้าออกฤทธิ์ จึงก่อเหตุฆ่าพี่ชายแท้ๆของตนเอง ขณะที่กำลังนั่งผิงไฟแก้หนาว ข้างกระท่อม (เถียงนา) เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 1 ม.ค. 2566 โดยก่อนก่อเหตุ ได้มีปากเสียงกันก่อน
จากนั้น นายไพศาล จึงใช้เก้าอีกนั่งแบบเตี้ย (คนพื้นบ้านชาวอีสานเรียกว่า ตั่ง) ตีเข้าศีรษะพี่ชายจนล้มฟุบลง ก่อนใช้ไม้ราวบันได้ ที่มีตะปูปักอยู่กับราวบันได ตีไปที่ศีรษะและใบหน้า จำนวน 10 กว่าครั้ง จนขาดใจตาย และทิ้งศพไว้ในที่เกิดเหตุ แล้วกลับไปนอนในหมู่บ้านห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 100 เมตร
ต่อมาเมื่อช่วงสายของวันที่ 2 ม.ค. 2566 นายไพศาล ผู้ก่อเหตุ จึงเดินทางมากระท่อม นำร่างผู้ตายไปฝังอำพรางศพ เพราะเกรงกลัวความผิด โดยหลังจากนั้นเพียงไม่นาน นายเดือน ปัสสาสัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านทรัพย์เจริญ ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีคนสูญหาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นามน มาร่วมตรวจ และพบศพถูกฝังอำพรางดังกล่าว
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com