หนุ่มใหญ่วัย 42 ปี หวาดระแวงคิดว่าตาวัย 73 ปี เป็นชู้กับภรรยาของตน ควงอาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด บุกก่อเหตุก่อนรุ่งสาง ใช้ด้านปืนตีใบหน้า ก่อนจ่อยิงกลางอกดับคาที หลังก่อเหตุกลับเข้าบ้านห่างจุดจ่อยิงเพียง 100 เมตร ทำทีถามชาวบ้านที่มาดูศพ เกิดเหตุอะไรคนมากันเยอะแยะ ตำรวจดมกลิ่นจากญาติผู้ตายรวบตัวเค้นสอบรับสารภาพฆ่าเพราะหวาดระแวงเป็นชู้กับเมียของตน
(27 ธ.ค. 2565) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับแจ้งเหตุ มีผู้เสียชีวิตถูกยิงตายอยู่ภายในเถียงนา (กระท่อม) หมู่บ้านกุดครอง หมู่ 4 ต.ดอนจาน อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ จึงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสากู้ภัยกุดหว้า จุดดอนจาน นำกำลังไปตรวจสอบ จุดเกิดเหตุห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กม. พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายวิจิตร ภารประดับ อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 4 ต.ดอนจาน อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่หน้าอก 1 นัด นอนเสียชีวิตอยู่บนที่เถียงนา (กระท่อม) และบริเวณใบหน้ามีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็ง สภาพปูดบวม คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบร่องรอยการต่อสู้ สิ่งของเครื่องใช้กระจุยกระจายไปทั่ว หลังตรวจชันสูจน์เบื้องต้น จึงส่งร่างผู้ตายไปชันสูจน์อย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช รพ.ขอนแก่น
สอบถาม นางประมวล ภารประดับ อายุ 70 ปี ภรรยาผู้ตาย ผู้ที่พบศพคนแรก ช่วงเวลาประมาณ 06.30 น. ได้เดินทางมายังกระท่อม เพื่อรดน้ำผักที่ปลูกไว้ในกระท่อม แต่ต้องแปลกใจ เมื่อไม่พบสามีตื่นและไม่เห็นว่าประตูก็ไม่เปิด จึงเรียกสามีให้ตื่น แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับ จึงขึ้นไปเรียกบนกระท่อม ถึงกับตกใจเมื่อพบว่าสามีแน่นิ่ง เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น ซึ่งบริเวณศีรษะถูกมุ้งพันคุมอยู่ เมื่อเปิดมุ้งดูหัวใจแทบสลาย เมื่อพบว่าสามีของตนถูกยิงจนเสียชีวิต จึงรีบมาแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อติดตามจับตัวคนร้าย
พ.ต.อ.เกียรติปกรณ์ รวมวงศ์ ผกก.สภ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า หลังทราบเหตุได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาระดับ จังหวัด และระดับภาครับทราบ พร้อมกับนำกำลังชุดสอบสวนและชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว กระทั่งทราบจากญาติผู้ตายว่า ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 100 เมตร จึงนำกำลังไปควบคุมตัว นายต้า หรือ นายพสธร ไวยะราบุตร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 273 หมู่ 7 ต.ดอนจาน อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ มาสอบสวน กระทั่งผู้ต้องสงสัย ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุยิงผู้ตายจริง เนื่องจากจนมุมด้วยหลักฐาน โดยตำรวจพบร่องรอยบาดแผลจากการต่อสู้กับผู้ตายที่บริเวณ ลำคอ และบริเวณแผ่นหลัง รวมถึงเขม่าดินปืนที่ติดตัวผู้ก่อเหตุ
พ.ต.อ.เกียรติปกรณ์ เผยว่า สาเหตุที่ก่อเหตุในครั้งนี้ นายต้า ให้การรับสารภาพว่า มีความหวาดระแวงผู้ตายมานานแล้ว เนื่องจากคิดว่า นายวิจิตร ผู้ตาย มาเป็นชู้กับภรรยาของตน จึงมีความแค้นฝังใจมานาน โดยไปหาปืนมาจากคนรู้จักเพื่อเตรียมไว้ก่อเหตุ กระทั่งสบโอกาสที่ผู้ตายนอนอยู่คนเดียวจึงบุกเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว
หลังสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาได้นำไปโยนทิ้งลงในสระน้ำข้างบ้านพักห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 100 เมตร โดยหลังก่อเหตุแล้ว ผู้ต้องหายังได้กลับเข้าไปหลบในบ้านพักซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 100 เมตร และผู้ต้องหา ยังได้ทำทีเดินออกมาถามชาวบ้านที่มาดูศพ นายวิจิตร หลังทราบข่าวการตาย ว่า “เขามาดูอะไรกัน คนมากันเยอะแยะ” จากนั้นเพียงไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนจาน ก็ควบคุมตัวไปเค้นสอบกระทั่งรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิง นายวิจิตร ตาย
ต่อมาผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังบ้านผู้ตาย และสอบถามญาติๆ ของผู้ตาย ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือนายต้า เคยได้รับความช่วยเหลือจาก นายวิจิตร ผู้ตาย และญาติๆ มาก่อน และสนิทคุ้นเคยกันมานาน คาดว่า นายต้า น่าจะเกิดอาการทางจิตรประสาท จากผลข้างเคียงที่เข้าไปยุ่งกับยาเสพติดก็เป็นได้ จึงทำให้เกิดความหวาดระแวงคิดว่าผู้ตายจะมาเป็นชู้กับภรรตนเอง เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งตอนนี้ ภรรยาของผู้ตาย ก็ไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว เพราะถูก นายต้า ทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง จึงหนีไปอยู่ต่างประเทศ โดยนายต้า ได้อาศัยอยู่กับบุตรสาว จำนวน 2 คนเท่านั้น