• พฤหัส. เม.ย. 24th, 2025

ตำรวจไซเบอร์ตะครุบหนุ่ม 17 ปี โพสต์อวดปืนได้กลางทุ่ง

กาฬสินธุ์ ตำรวจไซเบอร์ตะครุบหนุ่มวัย 17 “ทีม หัวหน้าแก๊งมัจจุราช” กลางทุ่ง โพสต์ปืนอวดโซเชียลพร้อมแคปชันเด็ด “สุดหล่อของเธอเราอยากเจอมันจัง” สุดท้ายแล้วก็ได้เจอพี่ๆ ตำรวจสุดหล่อจังๆ จริงๆ

ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

วันเสาร์ที่ 19 เม.ย.68 เวลา 09.00 น. ณ บก.สอท.3 ต.สำราญ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตร์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ตะครุบหนุ่มวัย 17 “ทีม หัวหน้าแก๊งมัจจุราช” กลางทุ่ง โพสต์ปืนอวดโซเชียลพร้อมแคปชันเด็ด “สุดหล่อของเธอเราอยากเจอมันจัง”

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้รับการร้องเรียนเบาะแสจากประชาชนว่า ได้มีบัญชีเฟซบุ๊ก ชื่อ “อิน ทัส (ทีม.มัจจุราช)” มักมีพฤติกรรมโพสต์รูปคู่อาวุธปืนลงสื่อโซเชียล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบ พบว่ามีการโพสต์จริง โดยคาดว่าบุคคลในภาพเป็นวัยรุ่นเพศชาย ได้โพสต์ภาพถืออาวุธปืนพร้อมระบุข้อความในลักษณะเชิงท้าทายต่างๆ ประกอบภาพ เช่น “นัดเดียวเสียวนะเพื่อน.” “สุดหล่อของเธอเราอยากเจอมันจัง” “มีแต่ผงชูรส ที่ทำให้พวกผมร่วงได้55+ที่นี่นาหัวเมย” “เบาหน่อยพี่ หนูจ่ะเดิน55” เป็นต้น

ต่อมา พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดร่วมกันเร่งสืบสวนกรณีดังกล่าว เนื่องจากหากปล่อยไว้เกรงว่าจะนำมาสู่เหตุการที่ไม่คาดคิดจนอาจเกิดอันตรายต่อประชาชน

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้พบข้อมูลว่า เจ้าของบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว คือ นายอินทัช หรือ ทีม เป็นเยาวชน พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศวลออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายในเวลาต่อมา

ล่าสุด พ.ต.ท.อนุสรณ์ ธีรนุชพงศ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมพร บุตรวงศ์, พ.ต.ท.ณรงค์ วังเสนา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3  พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ในสังกัด ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ 61/2568 ลงวันที่ 17 เม.ย.68 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ม.7 ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง พบตัว นายอินทัช หรือ ทีม อายุ 17 ปี อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เมื่อนายทีมเห็นเจ้าหน้าที่ ได้แสดงอาการตกใจและรีบคว้ากระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาลที่วางอยู่บนตู้เสื้อผ้าภายในบ้านกระโดดออกทางหน้าต่างภายในห้องนอน แล้ววิ่งหลบหนีมุ่งหน้าไปทางกลางทุ่งนาใกล้บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงรีบวิ่งไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด

โดยขณะวิ่งหลบหนีนั้น นายทีมได้หยิบอาวุธปืนออกจากประเป๋าแล้วโยนกระเป๋าทิ้งระหว่างทาง แต่ยังคงถืออาวุธปืนของกลางไว้ในมือแล้ววิ่งหลบหนีต่อไป ซึ่งขณะวิ่งไล่ตามนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นท่าทีไม่ดี จึงได้เตรียมพร้อมอาวุธปืนประจำกายหากผู้ต้องหามีการต่อสู้

แต่เมื่อวิ่งต่อไปได้อีกสักระยะหนึ่ง นายทีม ได้โยนอาวุธปืนทิ้งไว้ระหว่างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่วิ่งติดตามไปส่วนหนึ่งจึงได้เข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ภายในลำกล้องอาวุธปืนมีลูกกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 1 นัด บรรจุอยู่ ในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกส่วนหนึ่ง ยังคงวิ่งไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนสุดท้ายสามารถควบคุมตัว นายทีม ได้ในที่สุด

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัว นายอินทัช หรือ ทีม ในข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยเบื้องต้น เจ้าตัวรับสารภาพว่า ของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยตนเองเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมาใช้เองเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากตนเป็นหัวหน้าแก๊ง “มัจจุราช” ที่มีสมาชิกเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่

ขอขอบคุณข้อมูลจาก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี