กาฬสินธุ์ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในวัดป่ามัชฌิมวาส บ้านดงเมือง ตำบลลำพาน อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่คนร้ายได้เข้ามาขโมยพระพุทธสิหงค์ เนื้อสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย (ไม่ทราบขนาด) จำนวน 1 องค์ โดยคลิปแรก วันที่ 7 ต.ค. 2567 เวลาประมาณ 10.50 น. (เวลากล้องช้ากว่าเวลาจริง 11 นาที) คนร้ายใส่หมวกแก๊ปสีขาวสวมหน้ากากอนามัยสีดำเพื่อปิดบังใบหน้า ได้เข้าพื้นที่เข้ามาดูลาดเลาแล้วเดินออกไป ต่อมาเวลา 11.13 น. ของวันเดียวกัน คนร้ายกลับเข้ามาอีกครั้ง ได้ใช้ผ้าคลุมไหล่ปกปิดกระเป๋าสะพายเข้ามาขโมยพระพุทธรูปออกไป มีลักษณะเหมือนมีสิ่งของที่มีน้ำหนักอยู่ภายในกระเป๋า เดินไปขึ้นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีเทา ที่จอดไว้บริเวณลานวัดที่เกิดเหตุแล้วขับออกจากวัดไป
ซึ่งเวลาล่วงเลยผ่านไปเกือบ 1 เดือน วันที่ 5 พ.ย. 2567 พระที่วัดดังกล่าวถึงโทร.มาแจ้งเหตุว่ามีพระพุทธรูปหายไปจากวัด คาดว่าพระคงจะให้โอกาสคนร้ายว่าจะสำนึกผิดนำพระพุทธรูปที่ขโมยไปเอากลับมาคืนที่วัด แต่ไม่เป็นอย่างนั้น จึงได้แจ้ง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ติดตามสืบสวนนำพระพุทธรูปกลับมาคืนที่วัด
ซึ่งหลังจากศาลยังไม่ได้อนุมัติหมายจับ แต่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ก็รู้ว่าผู้ต้องหาเป็นใครอยู่ที่ไหน ก็ได้ทำการปลอมตัวทำทีไปกินข้าวร้านของผู้ต้องหา โดยสืบทราบว่าคนร้ายได้เปิดร้านขายก๋วยจั๊บอุบล อยู่บริเวณอาคารพาณิชย์ ต.ขามเรียน อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทำทีเป็นลูกค้า (มีคลิป) ไปนั่งกินก๋วยจั๊บอุบล
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 พฤษจิกายน 2567 ศาลอนุมัติหมายจับนายชัชวินท์ หรือเฟรม ในข้อหา “ลักทรัพย์ในที่บูชาสาธารณะ ที่เป็นพระพุทธรูปหรือวัตถุในทางศาสนา เป็นที่สักการะบูชาของประชาชนโดยได้กระทำในวัดสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนา โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ต่อมาในวันเดียวกันภายใต้การอำนวยการโดย พ.ต.อ.วีระ หางนาค รรท.ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.ท.เศรษฐศักดิ์ ศรีดี รอง ผกก.สส. นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวคนร้าย โดยการปลอมตัวทำทีไปกินข้าวร้านของผู้ต้องหา จนกระทั้งนายชัชวินท์ฯ ปรากฎตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายต่อหน้านายชัชวินท์ ซึ่งจากการสอบถามนายชัชวินท์ฯ ให้การว่าได้เข้าไปก่อเหตุลักพระพุทธรูปดังกล่าวจริง หลังจากที่ลักไปแล้วได้หาแหล่งที่ขายภายในอินเตอร์เน็ต จนกระทั่งได้ตกลงขายให้กับกับร้านรับเช่าพระในกรุงเทพมหานคร โดยนายชัชวินท์ฯ ได้นำพระดังกล่าวไปขายในเขตกรุงเทพมหานคร ในราคา 15,000 บาท จากนั้นก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ จนกระทั้งเจ้าหน้าที่มาจับกุมดังกล่าว
โดยนายชัชวินท์ฯ ให้การว่าได้นำพระดังกล่าวไปขายในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จึงได้ประสานงานกับชุดสืบสวน สน.โชคชัย ว่ามีสถานที่ดังกล่าวหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่ามีสถานที่ดังกล่าวจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถามเกี่ยวกับพระดังกล่าว เจ้าของร้านพระจึงได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรวจว่าตนได้เปิดร้านโดยมีใบอนุญาตถูกต้อง และไม่ทราบว่าเป็นพระที่ถูกลักขโมยมา และยินดีและยินยอมมอบพระดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อคืนทางวัดโดยไม่มีข้อแม้ เนื่องจากถ้าหากรู้ว่าเป็นพระที่ลักมาเจ้าของร้านก็จะไม่รับซื้อเช่นกัน และยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกประการ และยืนยันว่าไม่เคยซื้อขายกับคนร้ายมาก่อน เนื่องจากทางร้านได้เปิดเพจรับซื้อวัตถุมงคลทั่วประเทศ จากนั้นเจ้าของร้านดังกล่าวจึงได้ส่งมอบพระดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกลับคืนสู่ทางวัดต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำพระดังกล่าวกลับสู่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยใช้ระยะเวลาในการสืบสวนจับกุม นับแต่วันที่แจ้งเหตุ วันที่ 5 พ.ย. 2567 จนกระทั่งของหมายจับ และจับกุมตัวได้ และนำพระคืนสู่ทางวัดได้ในวันที่ 8 พ.ย. 2567 รวบระยะเวลา 3 วัน
ล่าสุดวันนี้ (11 พ.ย. 2567) ที่วัดป่ามัชฌิมวาส พ.ต.อ.วีระ หางนาค รรท.ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เศรษฐศักดิ์ ศรีดี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์, พ.ต.ต.ทรงศักดิ์ รัศมี สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์, ร.ต.อ.วัชรินทร์ นิสังกาศ รอง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์, ร.ต.ท.อุบล กิตติปาโล รอง สว.(ป.)สภ.เมืองกาฬสินธุ์, ด.ต.พานุมาศ กมลเลิศ, ด.ต.สุนันท์ สำราญบุญ, ส.ต.อ.ณัฐพงษ์ ภูกองไชย ผบ.หมู่.(สส.)สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ได้เดินทางนำพระพุทธรูปที่ถูกขโมยไปจากวัด มาส่งมอบคืนแก่วัด โดยมีคณะสงฆ์และญาติโยมในวัด ร่วมกันชยันโต เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันนี้ ซึ่งพระโพธิญาณมุนี หรือ หลวงพ่อเมือง เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมวาส ได้มอบพระเครื่องรุ่นเมตตามหาลาภ สร้างปี 2562 ให้ทีมงานชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อเป็นขวัญและบารมีติดตัวในการปฏิบัติหน้าที่ไว้ด้วย
พ.ต.อ.วีระ หางนาค รรท.ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เคสนี้เราได้รับแจ้งเหตุวันที่ 6 พ.ย. 2567 ก็ได้สั่งชุดสืบสวนออกติดตามคนร้าย จนทราบตัวแล้ววันที่ 8 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ก็ได้ออกหมายจับก็ได้ติดตามจับกุมตัวมาได้จนสืบสวนนำพระพุทธรูปกลับคืนมาได้ จากการประสานท้องที่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ที่รับไว้ก็เก็บไว้และให้ความร่วมมือได้นำพระพุทธรูปมาคืน และก็จะทำการสอบสวนต่อไปว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ และในเบื้องต้นคนร้ายก็มีประวัติลักพระพุทธรูปมาก่อน ในทางสอบสวนคิดว่าอาจจะเป็นมาเที่ยวชมแล้วก็เห็น อาจจะดูทางเฟสทางไลน์ว่ามีคนที่ออกสื่อว่ามีความต้องการจะซื้อขายพระพุทธรูป ก็เลยจะลองเอาไปขายดู ตอนนี้ผู้ต้องหาก็อยู่ระหว่างฝากขัง
ส่วนเจ้าอาวาสยังพูดในคลิปว่า สงสัยพระพุทธรูปไปรับกิจนิมนต์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นวัดที่ท่านเคยอยู่กว่า 1 เดือน ถึงได้กลับมาในวันนี้
การตรวจสอบประวัติบุคคลของนายนายชัชวินทร์ พบว่านายชัชวินทร์ฯ เคยต้องคดีอาญาในข้อหา “ตัวการลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปหรือวัตถุในทางศาสนา” ที่สถานีตำรวจภูธรโขงเจียม เมื่อปี พ.ศ. 2566
ส่วนเรื่องข้อมูลพระพุทธรูป คือพระพุทธสิหงค์ พระประทานเนื้อสำฤทธิ์ (ไม่ทราบขนาดหน้าตัก) หลวงปู่ที่วัดเล่าให้ฟังว่าเป็นพระที่สมเด็จเจ้าคุณนรฯ สร้าง สมัยรัชกาลที่ 6 ประเมินมูลค่าไม่ได้
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้ง ก็ทำให้ทราบว่าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาจนได้พระพุทธรูปนำมาถวายคืนวัดได้ ก็เป็นเพราะความทุ่มเทของทีมสืบสวน และมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ทำให้สาวไปถึงตัวการได้สำเร็จ จึงขอฝากให้สถานที่ที่มีทรัพย์สินหรือสิ่งของมีค่า ให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดและหมั่นตรวจสอบสภาพกล้องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดียามเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ และ ทางวัดจึงขอบอกบุญ ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญในมหาพิธีเฉลิมฉลองพระมหาเจดีย์ วัดป่ามัชฌิมวาส และฉลองอายุวัฒนมงคล 78 ปี 59 พรรษา พระโพธิญาณมุนี หรือ หลวงพ่อเมือง ในวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2567 ณ วัดป่ามัชฌิมวาส บ้านดงเมือง ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยพร้อมเพรียงกัน โดยในวันดังกล่าวจะมีพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปทองคำแท้ น้ำหนัก 20 กิโลกรัม ขึ้นประดิษฐาน ภายในยอดองค์พระมหาเจดีย์ด้วย