คดีสะเทือนขวัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ช่วงวันสุดท้ายของเดือนเมษายน หนุ่มหึงโหดใช้อาวุธปืนยิงสาวพนักงานปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในสี่แยกไฟแดงยางตลาด เสียชีวิตภายในบ้านพักส่วนตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 เวลา 02.00 น. สมาคมร่วมใจกาฬสินธุ์การกุศล (สำนักงานใหญ่) อำเภอยางตลาด รับแจ้งจากสถานีตำรวจภูธรยางตลาด ว่ามีเหตุยิงกันเสียชีวิตภายในห้องนอน ณ บ้านเลขที่ 17 หมู่ 4 บ.ดงน้อย ต.หนองอิเฒ่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กู้ภัยร่วมใจกาฬสินธุ์ จุด ยางตลาด พร้อมกำลังอาสาสมัคร จุด รุดเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตเพศหญิง 1 ราย ถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงเข้าบริเวณศีรษะ เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ พร้อมพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรยางตลาด พร้อมชุดสืบสวนสอบสวน และ แพทย์เวรชันสูตร รพ.ยางตลาด จึงเข้าทำการเข้าตรวจสอบ และ ชันสูตรพลิกศพ ณ จุดเกิดเหตุ ก่อนให้กู้ภัยร่วมใจ นำร่างส่งต่อไปชันสูตรพลิกศพ ณ สถาบันนิติเวช มหาวิทยาลัยขอนแก่นต่อไป ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางสาวพัชรินทร์ เชื้อบุญมี อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 4 บ.ดงน้อย ต.หนองอิเฒ่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ส่วนผู้ก่อเหตุ พนักงานสืบสวนสอบสวนจะดำเนินการติดตามตัว เพื่อหาต้นเหตุของการก่อเหตุ เพื่อดำเนินการจับกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ล่าสุดเช้าวันนี้ (30 เม.ย. 65) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของคดีนี้ ได้พูดคุยกับแม่ของหนุ่มผู้ก่อคดี คือนางมะลิจันทร์ ชิตุพา อายุ 58 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวาน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “ปกติลูกชายของตนเองนั้นเป็นคนรักเมีย รักใคร่กันดีไม่ได้ยินว่ามีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน แต่ก็ได้เลิกลากันไปแล้ว ซึ่งบุตรชายของตนเองนั้นก็ได้ขอคืนดีหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล ก็ยังตื้อขอคืนดีอยู่เรื่อย ๆ และมาช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานี้ ได้ทราบว่าอดีตลูกสะใภ้ของตนเองได้ไปทำงานที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งบริเวณสี่แยกยางตลาด และได้มีหนุ่มเข้ามาจีบ ซึ่งอาจจะเป็นมูลเหตุให้บุตรชายของตนเองนั้นเกิดความหึงหวงแฟนเก่า ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้บุตรชายของตงเองนั้นตัดสินใจก่อคดีครั้งนี้ขึ้น ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงก็ยังไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร เพราะปกติตนเองไม่ค่อยได้เปิดใจคุยกันกับบุตรชายเลย ขนาดเวลากินข้าวยังไม่ได้กินพร้อมกันเลย จึงขอวอนให้บุตรชายรีบเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะไม่มีใครหนีความผิดของกฎหมายของบ้านเมืองไปได้”