• ศุกร์. พ.ย. 22nd, 2024

ทนายกฤษฎาพาผู้เสียหายเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เหตุถูกรถยนต์คู่กรณีชนแล้วหนีจนเจ็บสาหัสปางตาย

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา ทนายกฤษฎา เวียงวะลัย พาผู้เสียหายเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม กับหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรนากุง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กรณีการเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายกับรถยนต์ของคู่กรณี โดยวันเกิดเหตุรถยนต์คู่กรณีได้เลี้ยวขวาตัดหน้ารถจักรยานยนต์จนรถชนกัน หลังเกิดเหตุรถยนต์กลับขับหลบหนี ไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ จนเป็นเหตุให้ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องผ่าตัดสมอง อาการหนักปางตาย

นายคมกริช ภูทองกรม ผู้เสียหายเล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า “เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2565 เวลาประมาณ 19.00 น. ตนเองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามทางปกติ และในระหว่างก่อนถึงที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ตนได้เปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อให้สัญญาณแซงรถยนต์คันที่อยู่ข้างหน้า และได้เร่งเครื่องเพื่อจะแซงรถคันดังกล่าว ปรากฏว่าได้ถูกรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน กท 695 กาฬสินธุ์ ซึ่งภายหลังวันเกิดเหตุมีบุคคลหนึ่งอ้างเป็นผู้ขับขี่ ปรากฏว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้เลี้ยวขวาตัดหน้ารถจักรยานยนต์ของตนเอง โดยไม่ได้ให้สัญญาณไฟเลี้ยวขวา จนชนกับรถจักรยานยนต์ของตนเข้าอย่างจัง และได้ขับขี่รถยนต์คันก่อเหตุหลบหนีไป โดยไม่ได้หยุดให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด จนเป็นเหตุให้ตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องผ่าตัดสมอง จึงได้ขอร้องเรียนให้พนักงานสอบสวนให้ความยุติธรรมในการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ สถานที่เกิดเหตุบริเวณข้างปั๊มน้ำมันบ้านโคกก่อง หมู่ที่ 7 ตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด”

ด้านทนายกฤษฎา เวียงวะลัย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “วันนี้ตนเองได้พาพยานมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์แก่พนักงานสอบสวนและพาผู้เสียหายมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม เพื่อสอบสวนประเด็นเพิ่มเติมอีก 3-4 ประเด็น ในส่วนของภาพจากกล้องวงจรปิด , SD Card ที่ใช้บันทึกข้อมูลจากกล้องวงจรปิด อยากให้ส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งทางหน่วยกู้ภัยเทศบาลตำบลบัวบานได้รับแจ้งเหตุว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มเอง แต่ทางญาติไม่เชื่อตามนั้น จึงได้สืบเสาะหาข้อมูลเพิ่มเติม จึงได้ทราบว่าอุบัติเหตุดังกล่าวมีรถคู่กรณี ซึ่งมีชื่อเจ้าของรถผู้หนึ่งเป็นผู้ขับขี่ในวันเกิดเหตุ โดยทางญาติอยากให้พนักงานสอบสวนทำการสวบสวนให้สิ้นขอสงสัยในประเด็นจุดเกิดเหตุ และผู้ขับขี่ เพราะถ้าเกิดเราได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ทางเราคิดว่ามันน่าจะบันทึกภาพในวันที่เกิดเหตุได้ มันน่าจะมีประโยชน์ต่อรูปคดีและทำให้เราสิ้นข้อสงสัยในที่สุด ว่าผู้ขับขี่เป็นใคร ทำไมถึงหลบหนี หลบหนีเพราะอะไร จึงต้องพึ่งกองพิสูจน์หลักฐานที่จะดึงข้อมูลจาก SD Card ของกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณเกิดเหตุ ซึ่งเราทราบว่ามีอยู่ แต่ตอนหลังเราเพิ่งมาทราบว่ากล้องวงจรปิดไม่สามารถบันทึกภาพไว้ได้ ในเฉพาะวันเกิดเหตุวันนั้น จึงเป็นที่สงสัยและมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้ทางร้อยเวรที่รับเรื่องสอบสวนให้สิ้นข้อสงสัย เพราะหลักฐานสำคัญจริงๆ ของเรื่องนี้ก็ต้องใช้ภาพจากกล้องวงจรปิด อยากให้ตำรวจช่วยเร่งรัดและส่งไปพิสูจน์ที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานต่อไป

นางระบาย ภูโอบ มารดาของผู้เสียหายเล่าว่า “แม่อยากให้ทางคู่กรณีมารับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาเยียวยาลูกชายของตนเอง ทำไมชนแล้วต้องหนี หนีแล้วยังไม่มารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ไม่มาถามข่าวคราวของอาการบาดเจ็บของลูกของตน เป็นคนบ้านเดียวกันแท้ๆ ขับรถผ่านหน้าบ้านไปมาก็น่าที่จะแวะถามข่าวคราวกันบ้าง ช่างไม่มีน้ำใจเสียเลย จึงอยากให้มารับผิดชอบ เพราะลูกชายไปทำงานทุกวันนี้ก็ไม่เต็มร้อย ไม่รู้เขาจะไล่ออกวันไหน ลูกชายแม่นั้นเป็นคนดี เป็นเสาหลักของครอบครัว เคยบวชเรียนมาก่อน เหล้าไม่ดื่มบุหรี่ไม่สูบ จนคนแถวบ้านถามตนว่าแม่เอาอะไรป้อนข้าวให้ลูกกิน ถึงได้เป็นคนรู้คนดีขนาดนี้ ทั้งลูกชายยังมีภาระต้องหาเงินเลี้ยงครอบครัว ทั้งเมีย และลูก ลูกยังเด็กด้วยต้องใช้เงินซื้อนม ซื้อแพมเพิร์ส และยังมีลูกในท้องที่ลูกสะใภ้ตั้งท้องมาแล้ว 6-7 เดือนที่ใกล้จะคลอดในเร็วๆ นี้ อีกด้วย”